ท่อ SCH40 2-1/2″ ท่อเหล็กแรงดัน
ท่อ SCH40 2-1/2″ ท่อเหล็กแรงดัน คือเป็นเหล็กรูปพรรณที่ผลิตขึ้นมาให้มีคุณที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังเป็นเหล็กที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก สมอ. คือมาตรฐาน มอก.107-2533 ซึ่งเป็นมาตรฐานของประเทศไทย ท่อเหล็กแรงดันเป็นเหล็กที่มีลักษณะที่เป็นทรงท่อและจะมีความยาวต่อเส้นอยู่ที่ 6 เมตร ซึ่งเป็นความมาตรฐานทั่วไปอีกทั้งยังเป็นเหล็กที่มีน้ำหนักที่เบา อีกทั้งท่อเหล็กแรงดันยังสามารถแบบออกได้เป็น 2 ประเภทคือ ท่อเหล็กแรงดันที่มีตะเข็บและท่อเหล็กแรงดันแบบไม่มีตะเข็บ ซึ่งท่อเหล็กทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปตามกระบวนการการผลิตและในเวลาการใช้งาน ซึ่งท่อเหล็กแรงดันแบบไม่มีตะเข็บจะมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงทนทานและมีความทนต่อความร้อนที่สูงได้มากกว่าท่อเหล็กแรงดันแบบมีตะเข็บเนื่องจากในการผลิตท่อเหล็กที่มีตะเข็บจะสามารถแตกร้าวได้ง่ายกว่าท่อเหล็กที่ไม่มีตะเข็บและท่อเหล็กแบบมีตะเข็บนั้นส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีความสำคัญและใช้ในงานที่ไม่สามารถเกิดความผิดพลาดหรือเกิดการชำรุดเสียหายได้ ซึ่งคนในปัจจุบันท่อเหล็กถือเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายและยังมีราคาที่ค่อนข้างคุ้มค่าต่อคุณภาพของท่อเหล็กแรงดันอีกด้วย และท่อเหล็กทั้ง 2 ประเภทนั้นควรใช้งานให้ถูกต้องแหละเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานแต่ถ้าหากใช้งานอย่างผิดวิธีหรือไม่ถูกต้องอาจจะเกิดความเสียหายได้
ในการใช้งานท่อเหล็กแรงดัน
ซึ่งเหล็กท่อแรงดันเป็นเหล็กที่มีความแข็งแรงและมีคุณภาพที่ดี ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะใช้เป็นท่อน้ำตามลักษณะชื่อไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำประปาหรือท่อน้ำทั่วไปที่ใช้ภายในอาคารบ้านเรือนและยังสามารถใช้เป็นท่อลำเลียงแก๊สหรือแม้กระทั่งท่อดับเพลิง ซึ่งมีขนาดให้เลือกใช้อย่างหลายขนาด เช่น ท่อเหล็กดำ SCH#40 2″ ท่อเหล็กดำ SCH#40 2-1/2″ ท่อเหล็กดำ SCH#40 4″ ท่อเหล็กดำ SCH#40 8″ เป็นต้น ทั้งนี้และยังสามารถปรับหรือประยุกต์ใช้กับงานใครสร้างหรืองานอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น ใช้เป็นโครงสร้างสำหรับงานที่รับน้ำหนักน้อยซึ่งรับน้ำหนักที่ไม่มากเกินไปหรือจะใช้ในงานตกแต่งอาคารได้อีกด้วยเพื่อเพิ่มความเป็นสไตล์ ความมีเสน่ห์ และเพื่อความสวยงามให้กับตัวอาคารมากเพิ่มขึ้น ในการใช้งานท่อเหล็กแรงดันนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้งานให้เหมาะสมกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพของท่อเหล็กแรงดันด้วย เนื่องจากท่อเหล็กแรงดันนั้นมีให้เลือกใช้ 2 ประเภท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในด้านการผลิตและด้านคุณสมบัติ ดังนั้นควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชำรุดเสียหายต่อทรัพย์สิน
ท่อเหล็กแรงดันจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทแบ่งตามกระบวนการผลิตและรูปลักษณ์ภายนอก คือ ท่อแหล็กแรงดันแบบมีตะเข็บ และท่อเหล็กแรงดันแบบไม่มีตะเข็บ
-
เหล็ก SCH#40 แบบมีตะเข็บ
ท่อสตีมแบบมีตะเข็บเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีคุณภาพสูงอีกทั้งยังเป็นเหล็กที่มีการขึ้นรูปด้วยเครื่องจักรที่มีผู้ควบคุมที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งเหล็ก SCH เป็นเหล็กที่มีลักษณะเป็นท่อกลมมีความยายต่อเส้นอยู่ที่ 6 เมตร และยังได้รับมาตรฐาน มอก.107-2533 ชั้นคุณภาพ HS41 ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่สูงของเหล็กรูปพรรณ เหล็ก SCH แบบมีตะเข็บนี้คนส่วนใหญ่จะใช้เป็นท่อน้ำทิ้ง ท่อน้ำประปา เป็นต้น เหล็ก SCH เป็นเหล็กที่ไม่ค่อยเหมาะกับงานที่ต้องรับแรงดันมาก ๆ เนื่องจากเป็นเหล็กที่ผลิตโดยการเชื่อมจึงทำให้มีรอยตะเข็บถ้าหากใช้งานที่มีแรงดันที่สูงอาจจะทำให้เกิดการชำรุดเสียหายได้
-
เหล็ก SCH#40 แบบไม่มีตะเข็บ
ท่อสตีมแบบมีมีตะเข็บเป็นเหล็กที่ได้จากการผ่านกระบวนการผลิตที่นำเหล็กมาดัดเป็นทรงท่อด้วยความร้อนที่สูงประมาณ 1200 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการรีดและขึ้นรูปให้เป็นทรงท่อ ซึ่งการทำวิธีนี้จะทำให้ได้ท่อเหล็กที่ไม่มีตะเข็บ เหล็ก SCH ประเภทนี้เป็นเหล็กที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและส่วนใหญ่จะใช้กับงานที่ต้องรับแรงดันที่เยอะอีกทั้งยังสามารถทนต่อความร้อนที่สูงมากได้อีกด้วย เช่น ใช้เป็นท่อลำเลียงน้ำมัน ท่อส่งแก๊ส หรือแม้กระทั่งงานโครงสร้างก็สามารถใช้งานได้ ซึ่งท่อเหล็กประเภทนี้มีความแข็งแรงมากในการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยังเป็นเหล็กที่ได้รับมาตรฐาน มอก.อีกด้วย
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเหล็กท่อแรงดัน ท่อ SCH40 2-1/2″
เหล็ก SCH เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีการผลิตขึ้นมาจากความร้อนที่สูงประมาณ 1200 องศาเซลเซียส ซึ่งเหล็ก SCH จะมีลักษณะที่เป็นทรงท่อ อีกทั้งยังมีความยาวต่อเส้นอยู่ที่ 6 เมตร และยังเป็นเหล็กที่มีคุณสมบัติที่มีความทนทานมาก ซึ่งเหล็กประเภทนี้จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือเหล็ก SCH แบบมีตะเข็บ และเหล็ก SCH แบบไร้ตะเข็บ ซึ่งเหล็กทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีกระบวนการการผลิตที่แตกต่างกันและยังมีคุณสมบัติความแข็งแรงที่แตกต่างกัน แต่เหล็กทั้ง 2ชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่เบาเหมือนกันซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายคนจึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายและเหล็ก SCH ยังสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและสามารถปรับใช้กับงานก่อสร้างทั่วไปได้ แต่ในการใช้งานต้องใช้งานให้ถูกต้องและเหมาะสมด้วยหากใช้งานไม่เหมาะสมอาจจะเกิดความเสียหายได้
ข้อดีของเหล็กท่อเหล็กแรงดัน SCH 40
- เป็นเหล็กท่อที่มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานมาก อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการทนความร้อนที่สูงอีกด้วย
- เป็นท่อที่มีน้ำหนักที่เบาจึงทำให้เวลาในการใช้งานสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกและรวดเร็วอีกด้วย
- เหล็กท่อแรงดันเป็นเหล็กที่สามารถใช้งานหรือใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย
- เหล็กท่อแรงดันเป็นเหล็กที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนบ่อย ซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยทีเดียว
ข้อควรระวังในการใช้งานท่อเหล็กแรงดัน
ท่อเหล็กแรงดันนั้นเป็นท่อที่มีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงก็จริงหากใช้งานผิดวิธีก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ อีกทั้งท่อเหล็กแรงดันนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทอีกด้วย คือ ท่อเหล็กแรงดันแบบมีตะเข็บและท่อเหล็กแรงดันแบบไม่มีตะเข็บ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนั้นจะใช้งานแตกต่างกันเนื่องจากมีการผลิตที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรใช้งานให้ถูกต้อง หากใช้งานท่อเหล็กที่ประเภทมีตะเข็บไม่ควรใช้ในงานที่มีแรงดันสูงมากจนเกินไปหรือใช้ในงานที่มีความร้อนที่สูงเพราะอาจจะเกิดการชำรุดเสียหายหรือเกิดการแตกร้าวของตัวท่อได้ หากใช้งานท่อเหล็กแรงดันประเภทไม่มีตะเข็บไม่ควรใช้ท่อเหล็กประเภทนี้ในงานโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักเยอะมากจนเกินไปถึงเพราะอาจจะเกิดรอยแตกร้าวหรือท่อเหล็กอาจจะเกิดการหักได้ แม้ท่อเหล็กแรงดันอาจจะเป็นเหล็กที่มีความแข็งแรงมากแต่ถ้าหากใช้งานผิดประเภทและใช้งานไม่เหมาะก็อาจจะความเสียหายได้
ข้อแนะนำในการใช้งาน ท่อเหล็กแรงดัน
- เมื่อจะใช้งานท่อเหล็กแรงดันนั้นก่อนที่จะใช้งานให้ตรวจสอบดูตัวของท่อเหล็กว่ามีส่วนไหนที่ที่มีการชำรุดเสียหายหรือไม่ถึงแม้ท่อเหล็กจะเป็นเหล็กใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานมาก็อาจจะมีการชำรุดเสียหายจากการขนส่งได้หรืออาจจะเกิดการชำรุดเสียหายจากการเก็บรักษาไม่ดี ถ้าหากมีการชำรุดควรรีบซ่อมแซมก่อนที่จะใช้งาน หรือหากพบท่อที่มีการเสื้อสภาพก็ไม่ควรนำมาใช้งานเพราะอาจจะเกิดความเสียหายได้
- ในการใช้งานท่อเหล็กแรงดันนั้นก่อนการใช้งานควรศึกษาและหาความรู้เกี่ยวกับท่อเหล็กแรงดันก่อนเพื่อในการใช้งานนั้นจะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุดและยังจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่านั้นเอง
ข้อแนะนำในการเก็บรักษาท่อเหล็กแรงดัน
ในการเก็บรักษาท่อเหล็กแรงดันนั้นควรเก็บรักษาให้ห่างจากความร้อนและเก็บให้ห่างจากความชื้นที่สูง เนื่องจากหากเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นสาเหตุของการเกิดสนิมคุณภาพของท่อเหล็กนั้นอาจจะลดลงหรืออาจจะเกิดการเสื่อมสภาพการใช้งานเมื่อเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและสภาพแวดล้อมอากาศที่ร้อน ซึ่งหากเก็บรักษาอย่างถูกวิธีก็จะเป็นการยืดอายุการใช้งานให้กับท่อเหล็กแรงดันได้
ข้อแตกต่างระหว่างเหล็กกล้า ที่นำมาทำท่อแหล็กแรงดันกับเหล็ก
- เหล็กกล้าเป็นเหล็กที่ได้มาจากการนำเหล็กธรรมดาไปผ่านกระบวนการการทำลายคาร์บอนออกจากเหล็กให้เหลือประมาณ 1% (ตามน้ำหนักของเหล็ก) ซึ่งจะทำให้เหล็กนั้นมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ประมาณ 95% อีกทั้งต้องมีธาตุอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วยนิดหน่อย
- เหล็กกล้าเป็นเหล็กที่มีคุณสมบัติที่มากกว่าเหล็กธรรมดา เพราะเป็นเหล็กที่ผ่านกระบวนการผลิตที่เพิ่มคุณภาพและคุณสมบัติให้กับเหล็ก ดังนั้นเหล็กกล้าจึงมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า อีกทั้งในการใช้งานยังสามารถดัดหรือตัดได้ตามที่เราต้องการได้เลย
- เหล็กกล้าจะมีความแข็งของตัวเหล็กที่น้อยกว่าเหล็กธรรมดา
- เหล็กกล้าจะมีแบ่งคุณภาพออกได้หลากหลายมากมายที่มากกว่าเหล็กธรรมดา ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน การที่มีคุณภาพที่มากกว่าก็หมายถึงการนำไปใช้งานที่มากกว่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นเหล็กกล้าจึงเป็นเหล็กที่สามารถนำไปใช้งานได้มากกว่านั้นเอง
- การเปลี่ยนรูปร่างของเหล็กนั้นจะสามารถทำได้โดยการหลอมให้เหล็กนั้นกลายเป็นน้ำเหล็กแล้วหลังจากนั้นจะต้องทำการหล่อเหล็กให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการจะใช้งานเลย เช่น การทำดาบ การหล่อแท่งเหล็ก เป็นต้น แต่การเปลี่ยนรูปร่างของเหล็กกล้านั้นจะสามารถทำได้โดยการรีดด้วยแท่นรีดนั้นเอง ซึ่งในการใช้งานเหล็กกล้านั้นสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายอีกด้งยตัวอย่าง เช่น นำเหล็กกล้ามาทำเป็นท่อ การรีดขึ้นเป็นเหล็กกล่อง การทำเหล็กแบน เหล็กรางพับหรือว่าท่อเหล็กแรงดัน นั้นเอง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์