อิฐมวลเบา ราคา โรงงาน
สารบัญ
คุณสมบัติทางเคมี
•ความแข็งแรงของอิฐมวลเบา เกิดขึ้นในหม้ออบไอน้ำ (Autoclave ) โดยปฏิกิริยา Hydro-thermal reaction ระหว่าง CaO กับ SiO2 ที่อุณหภูมิและความดันสูง ทำให้ได้ผลึก Tobermorite (ตามภาพ) สีขาว มีคุณสมบัติเสถียร การยืดหดตัวต่ำ จึงทำให้อิฐมวลเบาเป็นวัสดุก่อสร้างที่รับน้ำหนักได้สูง มีความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ
คุณสมบัติทางกายภาพ
จุดเด่น
•กันความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน เนื้ออิฐมวลเบามีรูพรุนเล็กๆ ทำหน้าที่เป็นฉนวนความร้อน ช่วยลดค่าใช้จ่าย การทำความเย็นให้กับอาคาร
•อิฐมวลเบาสามารถดูดซึมเสียงได้ดี ทำให้ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก
•ป้องกันไฟ อิฐมวลเบาไม่ติดไฟ และสามารถทนไฟได้ 4 ชั่วโมง
•น้ำหนักเบา อิฐมวลเบา เบากว่าอิฐก่อสร้างทั่วๆไป 3-4 เท่า ทำให้ง่ายต่อการลำเลียงขนส่ง และใช้ค่าใช้จถูกกว่า ช่วยลดโครงสร้างฐานราก
•มีมิติขนาดรูปร่างแน่นอน อิฐมวลเบาถูกผลิตจากเครื่องจักรทันสมัย ตัดตามขนาดที่ต้องการ ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน ก่อผนังได้สวยตรง ใช้ปูนก่อน้อย เก็บงานได้ง่าย
•ป้องกันปลวกและแมลง เนื่องจากคุณสมบัติของเนื้ออิฐมวลเบาด้านเคมี ผลึก Tobermorite ไม่ถูกทำลายด้วยปลวกและแมลง
จุดด้อย
•เนื่องจากเนื้ออิฐมวลเบามีลักษณะเป็นรูพรุนเล็กๆ จึงดูดซึมน้ำได้สูงกว่าอิฐก่อสร้างประเภทอื่นๆ งานก่อและฉาบ
จึงต้องใช้ปูนมอร์ตาร์พิเศษ สำหรับใช้กับอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถหาได้ในตลาดทั่วๆไปในขณะนี้
ปัญหา และวิธีป้องกัน สำหรับการนำอิฐมวลเบาไปใช้
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมผสมน้ำกับทราย
การนำทรายที่คัดคุณภาพมาผสมกับยิปซั่มในอัตราส่วนที่พอเหมาะ แล้วต่อจากนั้นนำไปบด โดยการใช้น้ำเป็นส่วนประกอบในการบด ด้วยหม้อบดทรายชนิดเปียก
ขั้นตอนที่ 2 การทำให้ความเข้มข้าคงที่ โดยการเตรียมส่วยผสมทรายกับน้ำ
การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมขั้นตอนนี้จะทำให้ความเข้มข้นของส่วนประกอบคงที่อยู่ตลอด โดยส่วนผสมที่ใช้ทรายละเอียดกับน้ำ ที่ถูกบดแล้วหลังจากนั้นก็เอาไปเก็บไว้ที่ถังทราย
ขั้นตอนที่ 3 การผสมวัตถุดิบ
ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และปูนขาวนำมาชั่งด้วยเครื่องชั่งน้ำหนักและนำไปใส่ถังผสม ซึ่งจะเป็นการผสมน้ำกับทรายและรีเทิร์นในถังผสม (รีเทิร์นได้มากจากส่วนผสมที่ได้จากการตัดในขั้นตอนที่5 มีคุณสมบัติให้ความแข็งแรงของปูนซีเมนต์และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เนื้อทรายก็เช่นกัน การควบคุมรีเทิร์นจะต้องมีการควบคุมให้เข้มข้นคงที่อยู่ตลาดเวลา และจะมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนที่จะทำกลับมาผสมใช้ใหม่)และส่วนผสมน้ำกับอลูมิเนียมจะถูกควบคุมอุณหภูมิห้ามเกินขีดจำกัดในถังผสม ทำให้มีผลเสียต่อผลิตภัณฑ์ได้ในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 4 การเทส่วนผสมจากถังผสมลงในโมลด์
วัตถุดิบส่วนผสมทั้ง5อย่าง จะถูกเทลงในโมลด์ และนำไปลำเลียงเก็บไว้ในห้องที่อุณหภูมิ 40 องศา ปฎิกิริยาระหว่างน้ำกับปูนซีเมนต์จะเริ่มแข็งตัว เกิดขึ้นในโมลด์ในขณะที่ทีการฟูตัวขึ้นเหมือนการทำเค้ก ได้ผลิตภัณฑ์ขั้นต้นที่เรียกว่ากรีนเค้ก เกิดจากการทำปฎิกริรยาระหว่างอมิเนียมและด่างให้ไฮโดรเจนออกมา ในเวลา 2-3ชั่วโมง เมื่อได้ความพอเหมาะจะถูกนำไปตัดต่อไป
ขั้นตอนที่ 5 การตัด
การถอดโมลด์ออกแล้วจะได้กรีนเค้กแล้วถูกนำไปตัดด้านทั้ง 4 ด้าน และตัดขนาดตามที่ลูกค้าต้องการจะได้เป็นอิฐเขียว
ขั้นตอนที่ 6 การทำให้อิฐเขียวแข็งตัว
การทำให้อิฐเขียวแข็งตัวคือการนำเอาอิฐที่ตัดแล้วเข้าไปในหม้ออบไอน้ำที่อุณหภูมิ 200 องศา ความดัน 15 บาร์ อบในหม้อ12ชั่วโมง จะได้อิฐมวลเบาสีขาวที่แปรรูปจากอิฐเขียว จากปฎิกิริยาที่เกิดกับทรายและด่าง เรียกว่าแคลเซียมซิลิเกรต เป็นผลึกสีขาว
ขั้นตอนที่ 7 การแพ็คและแยก
อิฐมวลเบาที่ผ่านการอบจะถูกนำเลียงออกมาทีละก้อน และนำไปจัดไว้บนพาเลท พร้อมรัดสาย ก่อนนำออกจากโรงงาน หลังจากนั้นก็นำเอาไปให้ฝ่ายคลังสินค้าเพื่อกระจายออกสู่ตลาด
ข้อดีของ อิฐมวลเบา
- อิฐมวลเบานั้นมีการยืดหดตัวน้อย เนื่องจากผ่านการอบไอน้ำมา
- มีน้ำหนักเบาสะดวกต่อการขนย้าย
- ขนาดได้มาตรฐาน
- เป็นที่รู้จักทั่วโลก
- อิฐมวลเบา มีมิติ รูปร่างแน่นอน ทำให้ก่อสร้างได้รวดเร็ว
- การปรับแก้งานทำได้สะดวก
- สามารถกันความร้อน กันเสียง และ กันไฟได้นานถึง 4 ชั่วโมง
- อิฐมวลเบาเป็นวัสดุก่อสร้างที่คงทนต่อทุกสภาวะอากาศ
- กันปลวก ซ่อมแซมง่าย อิฐมวล
- ผลิต และควบคุมคุณภาพ ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 1505-2541 อิฐมวลเบา ราคา
ข้อกำหนดการใช้งานผลิตภัณฑ์
บล็อกมวลเบาควรใช้งานร่วมกับปูนก่อ-ปูนฉาบ สำหรับบล็อกมวลเบาโดยเฉพาะ
ปูนก่อ ใช้ได้กับปูนก่อยี่ห้อ TPI M310 , อินทรีมอร์ตาร์แมกซ์ ,เสือคู่เขียว,จิงโจ้ม่วงสิงห์ เป็นต้น สามารถผสมน้ำในอัตราส่วนที่กำหนด และนำมาใช้งานได้ทันทีโดยผสมในลักษณะข้นเหลวปลานกลาง แล้วใช้เกรียงก่อสำหรับบล็อคมวลเบาใส่ปูนก่อบางๆเพียง 2-3 มิลลิเมตร ปูนก่อบล็อคมวลเบา1ถุง (40-50กก.) สามารถก่อได้ 18-20 ตารางเมตร
ปูนฉาบ ใช้ได้กับปูนฉาบ ยี่ห้อ TPI M210 , อินทรีมอร์ตาร์แมกซ์,เสือคู่ฟ้า ลูกดิ่่งแดง,สิงห์ เป็นต้น สามารถผสมน้ำในอัตราส่วนที่กำหนด และนำมาใช้งานได้ทันที สามารถฉาบได้ที่ความหนา 1-1.5 เซนติเมตร กรณีหนากว่า 1.5 เซนติเมตร ให้ทำการฉาบ2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน1.5 เซนติเมตร ปูนฉาบบล็อคมวลเบา 1 ถุง (40-50 กก.) สามารถฉาบได้ 2-2.5ตารางเมตร (ที่ความหนา 1 เซนติเมตร)
ข้อดีของปูนก่อ-ฉาบ ประหยัดเนื้อที่ในการกองเก็บวัสดุ ผสมและใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็วและประหยัดเนื้อที่ในการทำงานปริมาณการใช้งานน้อยกว่าปูนที่ใช้ก่อ-ฉาบ อิฐมอญ
ประโยชน์ของการใช้อิฐมวลเบา
เจ้าของโครงการ
- เงินหมุนดีกว่าเพราะ งานเสร็จไว ทำให้ขายบ้านได้เร็วกว่า อิฐมวลเบา ราคา
- เป็นสินค้าที่รู้จักกันโดยทั่วไปและได้รับความนิยม ช่วยเพิ่มจุดขายได้เนื้องจากคุณสมบัติของอิฐมวลเบา
- อิฐมวลเบาทำให้น้ำหนักโครงส้รางในการก่อสร้างลดลงและทำการก่อสร้างได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่าย
- ใช้อิฐมวลเบาขั้นตอนในการฉาบผนังไม่เปลืองปูนฉาบเหมือนอิฐมอญ ทำงานได้ไวกว่าและราคาถูกกว่าอิฐมอญ
ผู้รับเหมา
- ลดค่าใช้จ่ายในการทำงานก่อสร้างเนื้องจากใช้ปูนก่ออิฐน้อยลง
- อิฐมวลเบาเป็นอิฐที่หาซื้อได้งานตามตลาดและราคาไม่แพง
- เมื่อเทียบกับอิฐมอญ และอิฐบล็อค การใช้อิฐมวลเบาจะใช้เวลาในการก่อสร้างเร็วขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
- ใช้ช่างก็อิฐที่น้อยลงเพราะอิฐมวลเบาขนาดใหญ่กว่าอิฐบล็อกและช่วยลดค่าแรง
- การใช้อิฐมวลเบาก่อผนังจะมีความแข็งแรง และสามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศ
- อิฐมวลเบามีขนาดให้เลือกหลายขนาดตามความเหมาะสม แต่โดยส่วยมากที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ขนาดความหนาที่ 7.0 ซม. และ ความหนาที่ 7.5 ซม.
- ทำให้งานเกิดข้อการผิดพลาดน้อยลง ลดอัตราต้นทุนเพราะใช้ปูนก่อฉาบน้อยลง และมีมิติที่แน่นอน ง่ายต่องานก่อสร้าง
เจ้าของบ้าน
- การใช้อิฐมวลเบาก่อผนังบ้านจะสามาถลดค่าไฟในบ้านได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
- ลดเสียงรบกวนภายในบ้านและลดความร้อนภายในบ้านได้มากกว่าการก่ออิฐมอฐอิฐบล็อก
- ผนังอิฐมวลเบาสามารถเจาะยึดสิ่งของได้เพราะรับน้ำหนักได้พอประมาณ
ผู้แทนจำหน่าย
- มีน้ำหนักไม่มากช่วยลดค่าขนส่งได้ในระดับหนึ่ง
- สินค้าติดหูผู้บริโภคและง่ายต่อการขาย สามารถทำกำไรได้ง่าย
สิ่งแวดล้อม
- ไม่มีสารพิษเจือปนภายในตัวอิฐ
- กระบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
- ลดก๊าซเรือนกระจกและใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอิฐมอญอิฐบล็อค