เหล็กเอชบีม (h-beam)

h beam 150×150 หรือเหล็กเอชบีม (H – BEAM) เป็นเหล็กที่มีการใช้ในโครงสร้างที่ต้องการคุณสมบัติที่สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ และ ส่วนใหญ่จะใช้ในงานอาคารที่มีความสูง เพราะการรับน้ำหนักนั้นยิ่งสูงก็ต้องรับน้ำหนักที่มากขึ้นตามไปด้วย เหล็กเอชบีมเป็นเหล็กที่รีดร้อน แบบหนึ่ง ซึ่งมีการผลิตออกมาให้เลือกใช้งานกันได้อย่างหลากหลาย สามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งานได้เลย

สารบัญ

• ลักษณะเอชบีม
• การผลิตเอชบีม
• ระหว่างเหล็กเอชบีม และ เหล็กไอบีม ควรเลือกใช้อะไร
• วิธีการสั่งซื้อ

ข้อมูลพื้นฐานของเหล็กเอชบีม ( h beam 150×150 )

เหล็กเอชบีม( h beam 150×150 )นั้นเป็นเหล็กที่มรูปร่างลักษณะที่มีความคล้ายหัวตัวเอช และ มีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะมีขนาดที่ความกว้าง และ ขนาดความยาวที่เท่ากัน ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

( ลักษณะที่เด่นๆก็คือปีกที่มีความกว้างที่เท่ากัน )

เกรดของเหล็กเอชบีม ซึ่งจะมีเกรดที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้วคือ เอสเอส400 , เอสเอ็ม520 และ จะมีขนาดความยาวอยู่ 3 ขนาด หลักๆ คือ ขนาดความยาว 6 เมตร ขนาดความยาว 9 เมตร ขนาดความยาว 12 เมตร

 

การผลิตเหล็กเอชบีม ( h beam 150×150 )

เหล็กเอชบีม ( h beam 150×150 ) เป็นเหล็กที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และ มาจากการหลอมเหล็กที่เป็นแท่งหลังจากนั้น จึงทำการรีดร้อน ซึ่งทำการรีดร้อน แล้วให้มีหน้าตัดของเหล็กเอชบีม เป็นรูปตัวเอช ตามชื่อของตัวเหล็ก และ รูปแบบของหน้าตัดจะมีปีกด้วย

กว้างออกมาจากเอว (Web) ตรงกลาง โดยจะมีความหนาของเหล็กในส่วนปีกเท่ากันตลอด ไม่มีการปาด หรือ ลบมุมที่ปลายปีก โดยที่ตัวปีก (Flange) จะมีความหนาที่มากกว่ามากกว่าความหนาของเอว (Web)

H beam steel กับการใช้งาน

เหล็กเอชบีมเป็นเหล็กที่เหมาะกับการใช้ในงานที่ต้องรับน้ำหนักที่เยอะ ๆ เช่น งานโครงสร้าง เสา คาน และ สามารถใช้ในงานโครงสร้างหลังคาของอาคาร บ้านเรือน โรงแรมที่สูง และ คอนโดได้อีกด้วย  ทั้งนี้เหล็กเอชบีมยังเป็นเหล็กที่ได้มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing Materials) ของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเรียกว่าเหล็ก Wide Flange (W-Shape)

และ ในปัจจุบันเหล็กเอชบีม และ เหล็กรูปพรรณในแบบต่าง ๆ ในประเทศไทยก็สามารถทำการผลิตได้แล้ว อีกทั้งยังเป็นเหล็กที่คนเลือกใช้กันอย่างแพร่หลายอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในงานก่อสร้างอาคารสูง เพราะในการใช้งานนั้นเหล็กเอชบีมสามารถใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ และ ยังทำให้งานเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องรอให้เซตตัว ซึ่งจะต่างจาก

งานคอนกรีต สามารถดัดโค้งได้ มีขนาดที่ได้มาตรฐานเนื่องจากผลิตมาจากโรงงาน ISO 24314:2006(en)  เป็นการก่อสร้างด้วยระบบแห้งหน้างานจึงไม่สกปรกเลอะเทอะ สามารถนำมาดัดแปลง ต่อเติม และ รื้อถอนได้ง่าย และ ยังสามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้งอีกด้วย

คุณสมบัติของเหล็กเอชบีม

ซึ่งจากรูปเราจะเห็นว่า เหล็กเอชบีมในมาตรฐานอุตสาหกรรมนั้น เหล็กเกรด เอสเอ็ม570 จะมีคุณภาพดี และ มีคุณสมบัติที่หลากหลาย มีค่าการยืดตัว การหดตัวที่ดี และ ค่าความสามารถในการทนต่อทุกสภาพอากาศ และ พลังงาน

โดยในประเทศไทยมักจะนิยมใช้ SM400 และ SM520

ส่วนประกอบเชิงเคมีของเหล็กเอชบีม

ส่วนประกอบเชิงเคมีส่วนใหญ่ของเอชบีมจะไม่ต่างกันมาก แต่อาจจะต่างกันตรงที่ ซิลิคอน (Si: Silicon) ที่มากกว่าเล็กน้อยในเอชบีมเกรดที่สูงกว่า

ระหว่าง เหล็กเอชบีม และ เหล็กไอบีม ควรเลือกใช้งานเหล็กประเภทใด

การใช้งานของเหล็ก 2 ประเภทนี้จะมีการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเหล็กเอชบีม  จะเหมาะสมสำหรับงานที่เป็นโครงสร้างที่ใหญ่มาก เป็นเหล็กที่มีคุณสมบัติที่สามารถรับน้ำหนักได้ดีมากแต่สามารถรับแรงกระแทกได้น้อย จะมีความแตกต่างจากเหล็กไอบีม ที่ถูกออกแบบ และ ผลิตออกมา

เพื่อรองรับแรกกระแทกที่หนักๆ อย่างรางเลื่อน หรือ ตัวเครนยกของหนัก ๆ ตามโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ โครงสร้างขนาดใหญ่

สอบถามวัสดุโครงสร้าง หรือสอบถามข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ นายช่างกรุ๊ป

การนำวัสดุก่อสร้างไปใช้งาน คลิกที่นี่

ความรู้วัสดุก่อสร้าง คลิกที่นี่

สั่งซื้อได้เลยที่ร้านอาณาจักรนายช่าง 

LINE : NaichangNetwork

หรือโทร 086-341-9908

กลับไปที่สารบัญ