คุณสมบัติหลัก ๆ

• ทรายหยาบเป็นส่วนประกอบหลักในการใช้ในงานก่อสร้าง สามารถใช้ได้ในงานที่ต้องการความแข็งแรง
• ไม่ควรมีดิน หรือสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ที่มันปะปนอยู่ในทราย จึงทำให้มีคุณภาพที่ดีอย่างที่สุด
• ห้ามมีส่วนผสมของทรายทะเล หรือสิ่งใด ๆ ก็ตามที่มีความเค็ม อย่างเช่น น้ำเค็ม หรือ น้ำกร่อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดสนิม ในการก่อสร้าง ทำให้เกิดประสิทธิภาพ ในการก่อสร้างนั้นลดลง
• เนื่องจากเป็นทราย ที่มีขนาดของเม็ดทราย ที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังมีแรงต้านทาน ที่สูงกว่าทรายประเภทอื่น ๆ เมื่อนำไปผสมกับคอนกรีตแล้ว จะช่วยลดการเกิดรอยร้าว ที่อาจจะเกิดขึน บริเวณผนังได้ดี

เหมาะกับใช้งานก่อสร้างแบบใดบ้าง

• เป็นทรายที่เหมาะสำหรับ ใช้เป็นส่วนผสมของคอนกรีต ที่ต้อการความ ต้านทานกำลังที่สูง เช่น ใช้มีโครงสร้างของสะพาน ใช้ในอาคาร ที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และเขื่อนกั้นดิน หรือ นำไปเป็นโครงสร้าง ของฐานรากที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เสา หรือ คาน จึงสามารถนำมา เป็นใช้ในงานก่อสร้างทั่วไปได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน หรือตึกสูงในเมือง

คุณสมบัติที่ดีของทรายชนิดนี้

• มีลักษณะที่ เป็นเม็ดทรายเม็ดใหญ่ เป็นเหลี่ยม และ แงมุมที่ให้คุณสมบัติร่วน ทำให้มีอากาศ ไหลผ่านได้ดี กับเม็ดทรายไหลตัวได้ดี
• มีความแข็งแรง ค่อนข้างที่จะมาก จึ่งนิยมนำไปใช้งานก่อสร้าง ประเภทของโครงสร้าง เป็นหลักเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
• มีแรงต้านทาน ที่สูงกว่าทรายประเภทอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้เป็น ส่วนผสมของคอนกรีต ในการลดเรื่อง ความแตกร้าว ของการทำผนังได้อีกด้วย
• ต้องเป็นทรายที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกอย่างอื่นปนอยู่ด้วย เพื่อที่จะสามารถนำทรายหยาบไปผสมกับปูนซีเมนต์ได้
• ต้องผ่าน กระบวนการผลิต ที่ได้รับมาตรฐาน การผลิตที่ได้คุณภาพ และ ความน่าเชื่อถือ
• ต้องมีความสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรก เจือปนในเม็ดทราย มีเนื้อทราย ที่เนียนละเอียด มีสีทรายที่สวย
• ต้องไม่มีส่วนผสม ของทรายทะเล จากน้ำเค็ม หรือ น้ำกร่อย โดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดสนิม ในโครงสร้าง

1.กระบวนการผลิตของทรายแม่น้ำ

ขั้นตอนในการผลิต ทรายแม่น้ำโดยทั่วไป ในพื้นที่ ภาคเหนือ หรือ แถบลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ประกอบด้วย การดูดทรายขึ้นมาจากแหล่งทราย ได้แก่ แม่น้ำหรือบริเวณที่มีตะกอนทรายตกทับถม ซึ่งการดูดทรายแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ

คือ การดูดทรายโดยย้ายไปตามลำน้ำ ในบริเวณพื้นที่ที่ขออนุญาติดูดทราย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ที่กว้าง หรือมีความหนาของชั้นทรายน้อย โดยในการดูดทรายจะใช้เรือที่ติดตั้งเครื่องจักรปั้ม ดูดน้ำแบบหอยโข่งต่อกับท่อดูดทราย ดูดเอาน้ำ และ ทรายขึ้นมาผ่าน

เครื่องแยก และคัดขนาดทราย ไปยังเรือบรรทุกทรายที่รอรับอยู่และขนส่งทรายมาขึ้นท่าทรายตามแหล่งต่างๆ

2.กระบวนการผลิตของทรายบก

มี 2 กระบวนการ คือการแปรรูปในพื้นที่นิยมใช้เครื่องจักรแบบเรือดูด แบบสามขา หรือ เป็นแบบทุ่นลอย และ การขนย้ายวัตถุดิบจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยกระบวนการนี้จะคล้ายคลึงกันมาก เริ่มจากการเปิดหน้าดินไปจนถึงชั้นทราย โดยในระยะแรกนั้น

สามารถใช้รถแบคโฮขุดตักหน้าดิน  และเมื่อเราเปิดพื้นที่ลึกลงไปในแหล่งทรายจะมีสภาพเป็นแหล่งน้ำขัง เนื่องจากน้ำในใต้ดิน ถึงใช้เครื่องติดตั้งดูดทราย สามารถแยกกรวดทิ้งได้ รวมทั้งทำความสะอาดก่อนถ่ายลงบ่อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะสามารถแยกเป็นกองๆ

ได้อีกด้วย ส่วนน้ำขุ่นข้นที่มากับทราย ตลอดจนกรวด และ เศษของดินจะไหลลงไปในบ่อพักตะกอน โดยระบบน้ำในบ่อทรายนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นระบบปิด ถ้าให้กล่าวคือน้ำที่ผ่านบ่อพักตะกอนจะไหลวนลงบ่อทรายอีกครั้ง ยกเว้นในบางช่วงที่มีระดับ

น้ำลึกมากเกินไปสำหรับการดูดทราย จะดูดน้ำระบายออกมาจากบ่อได้จนถึงระดับที่ท่อดูดทรายสามารถทำงานได้นั้นเอง

• ระดับของน้ำที่เคยท่วม หรือ ประวัติน้ำท่วมของพื้นที่นั่นๆ
• ระดับน้ำในท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยสามารถทำการเช็คได้กับทางหน่วยงานราชการ
• ระดับของพื้นดินโดยรอย โดยนิยมถมแบบสูงกว่าถนนหน้าเข้าบ้านอยู่ที่ประมาณ 50 – 80 ซม. แต่ก็ไม่เกินกว่า 80 – 100 ซม. เพราะอาจจะทำให้เกิดจากแรงดันจากรั้ว ความลาดชันที่มากเกินไปจะปัญน้ำท่วมเข้าบ้าน หรือ เข้าบ้านในระแวกใกล้เคียง

• ระดับของพื้นดินอยู่ต่ำกว่าถนน
• พื้นที่ของบ้านเป็นบ่อ หรือ บึง
• ความต้องการย้ายตำแหน่งสาธารณูปโภค ได้แก่ เสาไฟฟ้า มิเตอร์ประปา ท่อประปา
• มีบ้าน หรือ อาคารเก่าต้องทำการรื้อออก

1.การถมทรายแบบอัดแรง

โดยจะทำการเท แล้วทำการบดอัดทรายไปเรื่อย ๆ เป็นชั้น ๆ  จนได้ระดับที่เราต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ได้ดินที่มีความอัดแน่น ไม่ทรุดง่ายเมื่อเวลาผ่านไป

2.การถมแบบไม่อัด

คือการที่เราต้องถมดินให้ได้ความสูงตามที่เราต้องการ แล้วทำการบดอัดหน้าดินเพียงครั้งเดียว โดยต้องมีความสูงที่ไม่เกิน 1 เมตร เพราะทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการทรุดตัวได้ในอนาคต