เหล็กรางน้ำ (Channels)
เป็นเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปร้อน มีลักษณะหน้าตัดเป็นตัวยู (U) โดยมีขนาดขาทั้งสองข้างยาวเท่ากัน มีขนาดและสเปคที่ไม่ผิดพลาด หน้าตัดมีความเรียบ ความหนาและขนาดจะต้องเท่ากันตลอดทั้งเส้น ผลิตสินค้าตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเลขที่ มอก. 1227-2558 ชั้นคุณภาพ SS400-540 และ SM400
*ชั้นคุณภาพ SS400-540 : ความต้านทางแรงดึงน้อยที่สุดที่ 400 MPa และ 540 Mpa
**ชั้นคุณภาพ SM400 : SM หมายถึงเหล็กชนิดที่รับประกันเรื่องการเชื่อม ตัวเลข 400 คือ ความต้านทานแรงดึงน้อยที่สุดที่ 400 MPa
เหล็กรางน้ำ (Channels) เหมาะสำหรับงาน
- ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่
- เสาสื่อสารโทรคมนาคม
- เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
- โครงหลังคาโรงงาน
- โครงหลังคาบ้าน
- งานโครงสร้างทั่วไป
การก่อสร้างนั้นสามารถทำได้ทั้งการเชื่อมด้วยความร้อนและการใช้ nutt & bolt
ประโยชน์ของการใช้เหล็กรางน้ำ (Channels) คือ
- มีความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้ง ประหยัดแรงงานก่อสร้าง
- น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับขนาดโครงสร้างโดยรวม
- เมื่อน้ำหนักโครงสร้างเบาก็จะทำให้น้ำหนักของฐานราก รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงไปด้วย
- เหล็กนั้นเป็นวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง
เหล็กรูปตัวยู (U) ต่างกับเหล็กรูปตัว (C) อย่างไร และมีวิธีการสังเกตอย่าง
- ดูเผินๆอาจจะแยกเหล็กสองชนิดนี้ได้ไม่ชัดนักเนื่องจากรูปร่างที่ต่างเพียงเล็กน้อยซึ่งจะต้องดูที่ section ดีๆว่าเป็นเหล็กรูปตัวยู (U) หรือเหล็กตัวซี (C)
- อีกจุดที่จะทำให้สามารถแยกแยะได้คือ ความหนา ด้วยการผลิตที่แตกต่างกันคือเหล็กรูปตัวยู (U) ผลิตด้วยการรีดร้อนจึงมีความหนามากกว่า เหล็กตัวซี (C) ที่ผลิตโดยการพับและม้วนแผ่นเหล็ก
- ด้วยความหนาและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันส่งผลให้มีการรับน้ำหนักที่ไม่เท่ากัน เหล็กรูปตัวยู (U) จึงเหมาะกับงานโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก ส่วนเหล็กตัวซี (C) ใช้กับโครงสร้างเบาทั่วๆไป