การก่อและฉาบ ผนังอิฐมวลเบา

 บ้านที่ดี ต้องมีความแข็งแรง เป็นสถานที่มี ความมั่นคง และ มีความปลอดภัย ซึ่งสิ่งสำคัญของบ้านก็คือ รากฐานของบ้าน ต้องเป็นรากฐานที่ดี ต้องเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ในการก่อสร้าง ต้องได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และ ใช้งานวัสดุอุปกรณ์ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งวัสดุต่าง ๆ ในการสร้างบ้าน มีการใช้งาน ที่แตกต่างกัน อิฐ มวลเบาก็มีเทคนิค ในการใช้งานด้วยเช่นกัน

คนส่วนใหญ่ยัง คงคิดว่าผนังอิฐมวลเบา เป็นผนังที่มีความแข็งแรง ที่น้อยมากกว่า ผนังอิฐแบบอื่น ๆ เนื่องจากชื่อ ของอิฐนั้น มีคำว่าเบานั้นเอง คิดว่าคำว่าเบา คงจะไม่มีความแข็งแรง มากเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังมีความเชื่อ ว่าผนังอิฐมวล เบาสามารถแตก ได้ง่ายมากอีกด้วย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น อิฐมวลเบาเป็นวัสดุ ที่ความแข็งแรง ทนทาน เท่ากับอิฐประเภทอื่น ๆ เลย

 

ก่อนทำการก่อ อิฐ ควรทำอย่างไร

การก่ออิฐมวลเบา จำเป็นที่จะต้องใช้ ปูนก่ออิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เพราะหากใช้ปูน ทั่วไปที่มีการแห้งเร็ว จึงทำให้ไม่มี แรงยึดเกาะ มากพอนั้นเอง ซึ่งจะทำให้มีความแข็ง แรงน้อยกว่าที่ควร การก่ออิฐมวลเบา จำเป็นที่จะต้องใช้เกรียง เพื่อที่จะให้ปูนมีกา รกระจายตัวที่ดี และ สม่ำเสมอ ทำให้มีแรงยึดเกาะ มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องเลือกขนาด ของเกรียงให้มีขนาด ที่เหมาะสมกับอิฐมวลเบา แต่ละขนาดด้วย เพื่อให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 ขั้นตอนการก่ออิฐมวลเบา

  • ขั้นตอนแรก เราต้องทำความสะอาด พื้นที่ให้มีความสะอา ดปราศจากฝุ่น และ สิ่งสกปรก เนื่องจากหากมีฝุ่นเกาะ อยู่จะทำให้คุณสมบัติ การยึดเกาะน้อยลง
  • แล้วทำการกำหนดเวลา การก่ออิฐแต่ละแนว ให้มีความชัดเจน หลังจากนั้น ทำการขึงเส้นเอ็น ตามแนวที่จะก่ออิฐ เพื่อที่ให้ทำการก่ออิฐ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เริ่มการก่ออิฐโ ดยทำการราดน้ำลงบนพื้นก่อน ทำการก่ออิฐแถวแรก ซึ่งจะใช้ปูน และ ทรายมาช่วยปรับระดับพื้น ทำการก่ออิฐจากมุมเสา ก่อตามแนวเอ็นที่เราได้ทำการขึงไว้
  • การก่ออิฐขึ้นเป็น ๆ ต้องทำการขึงเอ็น ทุกชั้นในการก่ออิฐ สามารถทำการ ก่ออิฐได้ตามความสูง ที่เราต้องการก่อได้เลย แต่การก่ออิฐไม่ควรก่อ เป็นชั้นเกิน 150 เซนติเมตร ควรทิ้งผนัง ให้แห้งก่อน จึงจะทำก่ออิฐชั้นต่อ ๆ ไปได้ และ ควรมีการตรวจสอบระดับในทุก ๆ 5 ชั้น เพื่อให้ได้งาน ที่มีความสมบูรณ์แบบ
  • หากในการก่ออิฐ มีช่องว่างเหลือ ก่อนท้องคาน ให้ทำการทิ้งผนัง ไว้ให้เซ็ตตัวก่อนประมาณ 24 ชั่วโมง และ ทำการปิดด้วยปูนทราย หรือ ทำการปิดด้วยอิฐมอญ

ขั้นตอนการฉาบอิฐมวลเบา

เทคนิคการฉาบอิฐมวลเบามีอะไรบ้างเรามาทำความรู้จักกันเลย

  • 1.เมื่อก่อผนัง เสร็จแล้วเป็นเวลา 4 ชม. เมื่อปูนมีการ เซ็ตตัวแล้ว ให้ทำการบ่ม ไว้ด้วยการรดน้ำผนัง เพื่อให้ผนังมีน้ำที่พอดี และ มีความแข็งแรง ซึ่งจะทำการ บ่มผนัง ในระยะเวลา ประมาณ   3 – 5 วัน แล ะจะต้องทำการรดน้ำผนังวันละ 1 รอบ ซึ่งต้องรอผนังมีการเซ็ตตัวก่อนทำการฉาบ
  • ทำการตรวจสอบว่า ผนังมีความแข็งแรง มีการยึดเกาะกันดีหรือไม่ ซึ่งหากผนังมีการเอนเอียง ให้ทำการแก้ไขทันที ก่อนทำการฉาบปูนผนังอิฐ
  • ทำการจับปุ่ม หรือ จับเซี้ยม ก่อนทำการฉาบผนัง เพราะจะต้องมีการฉาบ ให้มีความหนาที่มีความเหมาะสม และ มีความพอดี
  • ทำการติดตะแกรงกรงไก่ ตรงผนังเปิด เช่น หน้าต่าง ประตู ซึ่งโดยเฉพาะมุมหน้าต่าง กับมุมประตู เป็นมุมที่มีโอกาส เกิดการฉีกสูงมาก และ ช่องที่เป็นรอยต่อร ะหว่างวัสดุ เพื่อเป็นการล ดการแตกร้าวของผนังหนัง จากการยืด และ หดตัวของปูนนั้นเอง
  • หนึ่งวันก่อนทำการฉาบผนัง จำเป็นที่จะต้องมีการ ทำความสะอาดพื้นผิว ผนังให้มีความสะอาด แล้วทำการรดน้ำผนัง แล้วทิ้งให้ผนังหมาด ก่อนเริ่มทำการฉาบผนัง ไม่ควรฉาบ ในขณะที่ผนังปูนกำลังเปียกอยู่ เนื่องจากจะทำให้ปูน ไม่สามารถยึดเกาะกับผนังอิฐมวลเบานั้นเอง
  • ในการฉาบผนัง ไม่ควรฉาบให้มีความหนาเกิน 1.5 ซม. ซึ่งหากต้องการฉาบ ให้มีความหนาที่มากกว่านี้ ควรทำการฉาบเป็นชั้น ๆ โดยจะให้ชั้นแรก มีการแข็งตัว และ เซ็ตตัวเต็มที่ แล้วจึงทำการฉาบชั้นต่อไป
  • หลังจากที่ทำการ ฉาบผนังเสร็จแล้ว รอให้ผนังแข็งตัว เต็มที่แล้ว จำเป็นที่จะต้องทำการ รดน้ำผนังอย่างน้อย วันละหนึ่งครั้ง ติดต่อกัน เป็นระยะเวลา 3 – 7 วัน เพื่อให้ผนัง มีความแข็งแรง มากเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถลด ปัญหาการแตกร้าว ได้อีกด้วย หากสภาพอากาศ มีอากาศที่ร้อนจัด มีแดด หรือ มีลมพัดที่แรง จะทำให้ผนัง มีการสูญเสียน้ำที่เร็วเกินไป ควรทำการรดน้ำเพิ่ม มากขึ้นเป็นวันละ 2 – 3 รอบ และ ทำการเพิ่มระยะเวลาใน การรดน้ำขึ้นอีก หรือ ทำการหาผ้าใบ มากันแดด บังแดด บังลมให้กับผนัง เพื่อเป็นการลดการสูญเสียน้ำของผนัง

สั่งอิฐมวลเบาและสินค้าอื่น ๆ ได้ที่

LINE : NaichangNetwork เฟสบุ๊คนายช่างNetwork

หรือโทรมาที่เบอร์โทรศัพท์ 086-341-9908

>>>กลับหน้าสารบัญ<<<