อิฐมวลเบา vs อิฐแดง

อิฐมวลเบา vs อิฐแดง ควรเลือกใช้วัสดุใดในการก่อสร้าง

อิฐมวลเบา vs อิฐแดง ในการเปรียบเทียบของอิฐทั้ง 2 ชนิดนี้ จะเป็นประเด็นที่เจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา และ พวกสถาปนิกมักจะนำไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อวัสดุก่อผนัง เพราะว่าทั้ง 2 ชนิดนั้นมีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของการนำไปใช้งาน ในส่วนของงบประมาณ และ สภาพแวดล้อมอีกด้วย

 

การเปรียบเทียบของอิฐมวลเบา และ อิฐแดง

หัวข้อ

อิฐมวลเบา 

อิฐแดง (อิฐมอญ)

วัสดุผลิต

ปูนซีเมนต์, ทราย, ปูนขาว, น้ำ, ฟองอากาศ ดินเหนียวเผา
ขนาด (โดยทั่วไป) 60 × 20 × 7 – 15 ซม. (ใหญ่) 6.5 × 14 × 6 ซม. (เล็กกว่า)
น้ำหนัก เบากว่า ( 5 – 8.5 กก./ก้อน ) หนักกว่า ( 1.3 – 1.6 กก./ก้อน )
ความแข็งแรง น้อยกว่าอิฐแดง ทนแรงกระแทกได้น้อยกว่านิดหน่อย แข็งแรง ทนแรงกดแรงกระแทกได้ดี
กันความร้อน ดีมาก (มีฟองอากาศภายในช่วยเป็นฉนวน) ไม่ดีเท่า (เก็บความร้อนในผนัง)
กันเสียง ดี ปานกลาง
กันไฟ ทนไฟได้นานกว่า (ประมาณ 3 – 4 ชม.) ทนไฟเช่นกัน แต่ระบายความร้อนช้ากว่า
งานฉาบ ต้องใช้ปูนฉาบบางเฉพาะทาง (บางยี่ห้อแพงกว่า) ใช้ปูนฉาบทั่วไปได้
ความสะดวกในการก่อ ก้อนใหญ่กว่า ก่อเร็ว ประหยัดแรงงาน ก่อช้า ใช้แรงงานมาก แต่สามารถปรับรูปทรงง่าย
ราคาต่อหน่วย ก้อนละ 18 – 28 บาท (ขึ้นกับขนาด/พื้นที่) ก้อนละ 0.80 – 1.20 บาท
ค่าแรงก่อ น้อยกว่า เพราะก่อเร็ว มากกว่าเพราะใช้เวลานาน
พื้นที่ที่แนะนำ ผนังภายใน – ภายนอก บ้านทั่วไป คอนโด โรงงาน งานโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก ผนังห้องน้ำ โรงรถ ฯลฯ
จุดอ่อน เปราะ ถ้าโดนน้ำมาก ๆ อาจเสียรูป ต้องป้องกันความชื้นดี ผนังมีรอยแตกร้าวง่ายหากไม่มีเสาเอ็น-คานเอ็น

 

ข้อดี-ข้อเสียของอิฐมวลเบา

  1. มีน้ำหนักที่เบา อิฐมวลเบานั้นมีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา และ ยังเลื่อยตัดได้ง่าย เมื่อนำมาใช้งานในการก่อผนังก็จะช่วยลดน้ำหนักของผนัง แล้วยังช่วยในเรื่องของการประหยัดงบประมาณค่าก่อสร้างของโครงสร้างผนังได้ด้วย เพราะไม่ต้องทำเสาเอ็น หรือ เสาคาน
  2. ช่วยประหยัดเวลา มวลเบาเป็นก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีควาหนาตั้งแต่ 7,  7.5, 10, 12.5, 15, 17 และ 20 เซนติเมตร อีกทั้งยังสามารถเลื่อยตัดขนาดตามที่ต้องการได้ด้วย แล้วยังรับน้ำได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ก่อผนังได้อย่างรวดเร็ว
  3. อุณหภูมิ เพราะเนื่องจากภายในอิฐมวลเบานั้นมีฟองอากาศเป็นจำนวนมาก ทำให้อิฐชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นเหมือนฉนวนกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยกันความร้อนจากภายนอก ช่วยให้อากาศภายในตัวบ้านมีความเย็นสบายมากยิ่งขึ้น
  4. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าจะช่วยในการประหยัดงบประมาณค่าโครงสร้าง แต่การก่อผนังอิฐมวลเบานั้นจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางได้แก่ ปูนก่อสำหรับอิฐมวลเบา ปูนฉาบ พุกโลหะ ซึ่งอาจจะไม่มีขายอย่างแพร่หลายนัก จำเป็นที่จะต้องวางแผนการซื้อให้ดี ๆ
  5. โอกาสที่จะเกิดรอยแตกร้าวมากกว่า ช่างก่อสร้างส่วนใหญ่ยังไม่เคยชินกับการก่ออิฐมวลเบามากนัก ถ้าหากก่อแบบไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้เกิดโอกาสแตกร้าวได้อย่างง่าย อีกทั้งการเจาะผนังของอิฐมวลเบาจำเป็นที่ต้องใช้พุกที่มีการออกแบบมาเพื่อเจาะมวลเบาโดยตรงไม่งั้นจะมีโอกาสเกิดรอยแตกร้าวได้

 

ข้อดี-ข้อเสียของอิฐแดง

  1. มีความแข็งแรงทนทาน อิฐแดง หรือ อิฐมอญเป็นวัสดุที่มีความหนาแน่นที่สูง จึงรองรับน้ำหนักได้อย่างดี มีความเหมาะสมสำหรับการเป็นผนังที่อยู่ติดกับส่วนที่ต้องการรองรับน้ำหนัก ได้แก่ ผนังที่ต้องติดกับเคาน์เตอร์ในครัว หรือ ผนังที่จะต้องการเจาะรองรับน้ำหนักที่มาก ๆ รวมไปถึงทนแดด ทนฝน ทำให้มีความเหมาะสมกับผนังที่ต้องมีการสัมผัสกับความชื้น และ ฝนสาดอย่างโดยตรงอย่างผนังภายนอก
  2. ช่างส่วนมากให้ความนิยม สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ ทำให้มีการหาซื้อได้ง่ายแล้วยังเป็นที่นิยมของช่างก่อสร้าง ทำให้โอกาสในการเกิดรอยแตกร้าว หรือ มีความเสียหายที่น้อยลงตามไปด้วยนั้นเอง
  3. สามารถนำไปตกแต่งได้อย่างหลากหลายสไตล์ โดยเฉพาะสไตล์ลอฟท์ หรือ แนววินเทจจะได้รับความนิยมเป็นอย่างพิเศษ เพราะใช้ก่อแบบปล่อยเปลือยเพื่อโชว์แนวของอิฐได้
  4. ทำให้ก่อสร้างได้ช้ากว่า เพราะเนื่องจากเป็นอิฐที่มีขนาดเล็กแล้วยังมีน้ำหนักที่มาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างในการรองรับน้ำหนัก และ ทำให้ใช้เวลาในการก่อสร้างมากกว่า แล้วยังทำให้เสียค่าแรงงานมากยิ่งขึ้นตามมาด้วย
  5. ดูดซับความร้อน ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญอย่างมากของอิฐชนิดนี้ในการนำมาก่อเป็นผนัง คือ ตัวอิฐจะอมความร้อนแล้วยังเก็บความร้อนไว้ได้นาน โดยเฉพาะช่วงกลางวันถ้าหากสัมผัสกับผนังอิฐแดง ผนังจะมีความร้อนที่จัด และ ยังจะเย็นตัวลงในช่วงเวลาค่ำ ทำให้เกิดการเปลืองไฟมากกว่าถ้าเราเปิดเครื่องปรับอากาศ

 

ขั้นตอนหลักๆในการก่อผนัง

ก่อด้วยอิฐมวลเบา

  1. ให้ปรับระดับพื้น และ ให้เช็คแนวฉากด้วยลูกดิ่ง
  2. ให้ใช้ปูนก่อมวลเบา ปาดด้วยเกรียงหวีที่ความหนาประมาณ 3 – 5 มม.
  3. นำมวลเบาไปเรียงในแนวตรง แล้วปรับระดับด้วยค้อนยาง
  4. เช็คระดับทุกแถวด้วยเครื่องวัดระดับน้ำ
  5. เมื่อทำการเสร็จแล้วรอให้แห้ง จากนั้นฉาบด้วยปูนฉาบมวลเบา

หมายเหตุ ห้ามใช้ปูนก่อแบบทั่ว ๆ ไป เพราะจะทำให้อิฐชนิดนี้ดูดน้ำได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้ปูนแห้งก่อนเกิดการยึดตัว

ก่อด้วยอิฐแดง

  1. ให้นำอิฐแดงไปแช่น้ำก่อน 10 – 15 นาที
  2. นำไปผสมปูนทราย แล้วตักปูนให้มีความหนาประมาณ 1 – 1.5 ซม. ก่อนที่จะนำอิฐไปวางที่ละก้อน
  3. ปรับระดับด้วยเครื่องสายเอ็น ลูกดิ่ง และ ก็ไม้วัดระดับน้ำ
  4. เติมปูนระหว่างก้อนให้มีความหนาแน่น
  5. ฉาบด้วยปูนฉาบแบบทั่ว ๆ ไป

หมายเหตุ มีความยืดหยุ่นที่สูง รองรับแรงได้อย่างดี มีความเหมาะจะนำไปทำเกี่ยวกับโครงสร้าง หรือ พื้นที่ที่มีความเปียก

 

ข้อสรุประหว่าง อิฐมวลเบา และ อิฐแดง ควรเลือกอะไรดีกว่ากัน

  • ถ้าเลือกอิฐมวลเบา คือ คุณต้องการสร้างบ้านที่มีความอยู่สบาย ไม่ร้อน แล้วยังช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง และ ยังเน้นไปที่ความเรียบร้อยของผนัง
  • ถ้าเลือกอิฐแดง คือ คุณต้องการความแข็งแรงแบบดั้งเดิม หรือ นำไปใช้ในส่วนพื้นที่ที่ต้องเอาไว้รองรับแรง ได้แก่ ผนังภายนอกบางประเภท หรือ ฐาน
 
ความรู้เพิ่มเติม

ในกรณีของบ้านหนึ่งหลังนั้น อาจจะใช้อิฐที่มีความหลากหลายในการผสมกันก็ได้ ตัวอย่างเช่น ใช้อิฐมวลเบาสำหรับผนังทั่ว ๆ ไป และ ใช้อิฐแดงในส่วนที่ต้องการรองรับน้ำหนักที่มาก ๆ ควรคำนึงถึงช่างที่มีประสบการณ์โดยตรงกับวัสดุที่ท่านได้เลือกใช้ เพื่อให้เกิดคุณภาพของงานที่ดีที่สุดนั้นเอง ถ้าหากท่านกำลังเลือกวัสดุก่อสร้างสำหรับบ้านของท่าน ลองเปรียบเทียบจากทั้งในเรื่องของความเหมาะสมกับการนำไปใช้งานจริง และ งบประมาณโดยรวมของท่านด้วย จะช่วยให้ท่านได้ทั้งความคุ้มค่ากับความสบายภายในระยะยาว

 

การนำวัสดุไปใช้งาน คลิกที่นี่

ความรู้วัสดุก่อสร้าง  คลิกที่นี่

https://www.facebook.com/naichanggroup

 

สั่งซื้อสินค้ากับ ร้านนายช่างกรุ๊ป
ขอใบเสนอราคา/สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ 097-178-9362
Line: @naichanggroup

วัสดุก่อสร้างออนไลน์ ส่งตรงถึงไซต์งาน
เจ้าใหญ่ในนนทบุรี ประสบการณ์ 30 ปี