6 วิธีการ ทดสอบ คุณภาพของคอนกรีต
คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีส่วนผสมที่มีความหยาบ และ ความละเอียดรวมกัน ส่วนใหญ่คอนกรีตจะประกอบด้วยซีเมนต์ขาว เพื่อเพิ่มการยึดเกาะให้มากขึ้น เช่น ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนจะมีสารยึดเกาะคือปูนซีเมนต์ และ น้ำ ก่อนที่จะทำการกำหนดคุณภาพของคอนกรีตจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสอบคุณภาพของคอนกรีตก่อน โดยทั่วไปจะมีการตรวจ และ ทดสอบ คุณภาพของคอนกรีตอยู่ 6 วิธี
สารบัญ
ขั้นตอนการ ทดสอบ คุณภาพของคอนกรีต
- การทดสอบค่ายุบของคอนกรีตจากโรงงานจนถึงไซต์งาน ในการทดสอบค่ายุบตัวของคอนกรีต เพื่อหาประสิทธิภาพในการทำงานของคอนกรีตโดยทำการผสมคอนกรีตแล้วนำตัวอย่างคอนกรีตไปทดสอบความแข็งแรง และ ประสิทธิภาพในการรับแรงกดทับ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของคอนกรีตว่าได้มาตรฐานตามที่กำหนด ก่อนนำไปใช้ในงานต่าง ๆ อีกทั้งเมื่อคอนกรีตไปส่งถึงหน้างานต้องทำการทดสอบค่าการยุบตัวของคอนกรีตผสมเสร็จอีกครั้งโดยจะทำการทดสอบด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิเปรียบเทียบกัน
- ทดสอบประสิทธิภาพในการรับแรงกดทับของคอนกรีต (ทดสอบกำลังอัด) การทดสอบกำลังอัดของคอนกรีตจะใช้ตัวอย่างคอนกรีตที่เป็นทรงลูกบาศก์ หรือ ทรงกระบอกจะทำการทดสอบ โดยใช้คอนกรีตสามตัวอย่างในการทดสอบการรับแรงอัด ซึ่งตัวอย่างในการทดสอบจะไม่ใช่แค่ตัวอย่างทั่ว ๆ ไป และ ในการทดสอบจะต้องมีการทดสอบตัวอย่างพิเศษเข้ามาด้วย เพื่อหากตัวอย่างคอนกรีตสองตัวอย่างที่เราได้ทำการทดสอบนั้นเกิดการล้มเหลว หรือ ไม่ประสบความสำเร็จจะเหลืออีกหนึ่ง ตัวอย่างที่ผ่านการทดสอบนั้นเอง
- การทดสอบคุณสมบัติการซึมผ่านของน้ำในคอนกรีต ในการทดสอบนี้เป็นการทดสอบหาคุณสมบัติในการซึมผ่านของน้ำซึ่งการทดสอบส่วนใหญ่จะทดสอบ จากส่วนประกอบโครงสร้างของคอนกรีต เช่น กำแพง รากฐานของอาคารบ้านเรือน ผนังกั้นน้ำ เป็นต้น
- การทดสอบการซึมของคลอไรด์ ในการทดสอบคอนกรีตนี้จะเหมือนกับการทดสอบการซึมผ่านของน้ำในคอนกรีต เพื่อหาคุณสมบัติความแข็งแรง และ กันซึม ซึ่งจะทำการทดสอบโดยการนำแท่ง หรือ ลูกบาศก์คอนกรีต ที่ได้จากหน้างานที่มีอายุครบ 28 วันมาทำการทดสอบ
- การทดสอบการดูดซึมของน้ำ การทดสอบการดูดซึมของน้ำในการทดสอบนี้ก่อนที่จะทำการทดสอบควรกำหนดความทนทาน และ ความหนาของคอนกรีตเสียก่อน ซึ่งจะนำตัวอย่างสามตัวอย่างมาจากคอนกรีตสดที่ทำการบ่มไว้เป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง หรือ บ่มแล้ว 28 วัน มาทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษเพื่อให้คุณสมบัติที่ได้มาตรฐาน BS 1881 – 122
- การทดสอบการดูดซึมของพื้นผิวเบื้องต้น ในการทดสอบจะใช้สามตัวอย่างที่ได้จากหน้างานอีกทั้งยังต้องเป็นคอนกรีตที่ผ่านมาตรฐานมาทำการทดสอบโดยการบ่มคอนกรีตไว้เป็นเวลา 28 วันแล้วหลังจากนั้นค่อยทำการทดสอบ
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ข้อควรรู้ก่อนทำการบ่มคอนกรีตการบ่มคอนกรีตควรทำการบ่มในสถานที่จริง และ ในสภาพแวดล้อมเดียวกันเพื่อประเมินคุณภาพของคอนกรีตที่ทำการบ่มว่ามีความเหมาะสมต่อการใช้งาน หรือ มีคุณสมบัติการรับแรงอัดหรือไม่เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานคอนกรีต และ สามารถมั่นใจในคุณภาพของคอนกรีต
- ก่อนทำการบ่มควรประเมินคุณภาพของคอนกรีตว่าได้มาตรฐานหรือไม่
- ก่อนทำการบ่มควรประเมิน สภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
- ค่ายุบตัวของคอนกรีต คือ ค่าที่วัดความข้น และ ความเหลวของคอนกรีตนั้นเอง
- มาตรฐาน BS 1881 – 122 คือมาตรฐานการทดสอบการดูดซึมของน้ำในคอนกรีต
- กำลังอัด คือ ประสิทธิภาพของคอนกรีตที่สามารถต้านทานต่อแรงอัดที่เกิดขึ้น โดยไม่เกิดความชำรุด หรือ เสียหาย ซึ่งมีหน่วยเป็น ksc หรือ กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร ในการแสดงกำลังอัดของคอนกรีตจะมีเลขที่บอกกำลังอัดไว้ข้างหน้า เช่น 180 ksc 280 ksc 320 ksc 400 ksc เป็นต้น
ข้อดีของการทดสอบคุณภาพคอนกรีตก่อนใช้งาน
การทดสอบคุณภาพของคอนกรีตก่อนทำนำมาใช้งานสามารถทำให้ทราบถึงคุณภาพ และคุณสมบัติของคอนกรีตว่าได้มาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่ เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย
สรุปการทดลองของคอนกรีต
ในการทดสอบที่กล่าวมาข้างต้น การทดสอบการซึมผ่านของน้ำ การทดสอบการซึมผ่านของคลอไรด์ การทดสอบการดูดซึมของน้ำเป็นต้น ในการทดสอบเหล่านี้เพื่อเป็นการหาคุณสมบัติ และ ประสิทธิภาพความทนทาน ความแข็งแรงของคอนกรีตว่ามีความสามารถ ในการต้านทานต่อทุกสภาพอากาศหรือสารเคมีต่างภายนอกนั้นเอง
การนำวัสดุไปใช้งาน คลิกที่นี่
ความรู้วัสดุก่อสร้าง คลิกที่นี่
https://www.facebook.com/naichanggroup
สั่งซื้อสินค้ากับ ร้านนายช่างกรุ๊ป
ขอใบเสนอราคา/สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ 097-178-9362
Line: @naichanggroup
วัสดุก่อสร้างออนไลน์ ส่งตรงถึงไซต์งาน
เจ้าใหญ่ในนนทบุรี ประสบการณ์ 30 ปี