สระว่ายน้ำคอนกรีตดีอย่างไร

สารบัญ

• ข้อดีของสระว่ายน้ำคอนกรีต
• โครงสร้างของสระว่ายน้ำ
• ขั้นตอนการปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ
• วิธีการสั่งซื้อ

• มีความแข็งแรงทนทานสูง

การสร้างสระว่ายน้ำ ด้วยคอนกรีตถือเป็น ทางเลือกที่ดี เนื่องจากคอนกรีต มีความแข็งแรงทนทานมาก ซึ่งสามารถใช้งาน ได้อย่างยาวนานเป็นสิบ ๆ ปี และสามารถใช้งานได้ยาวนานมากกว่า สระว่ายน้ำประเภทอื่น ๆ เนื่องจากเป็นโครงสร้าง ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ซึ่งจะมีการลงเสาเข็ม ทำให้สามารถรับน้ำหนัก ของโครงสร้างได้ดี และ เหมาะสมต่อการใช้งาน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ ที่สามารถกันซึมได้ดี หากมีการซึมผ่านของน้ำ อาจจะทำให้โครงสร้างของสระว่ายน้ำ เกิดความเสียหายได้

• เลือกได้หลากหลายสไตล์ตามชอบ

ในการสร้างสระว่ายน้ำ สามารถเลือกได้ตาม สไตล์ตามความชอบได้เลย เนื่องจากสามารถออกแบบ และ สร้างได้ไม่จำกัดอยู่ ในแค่รูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งสามารถสร้าง ให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน และ เป็นการตกแต่งบ้าน ได้ง่ายกว่าสระว่ายน้ำสำเร็จรูป

• สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเองได้

ในการสร้างสระว่ายน้ำ ด้วยคอนกรีตสามารถ เลือกกระเบื้องที่มีลวดลาย ตามที่ต้องการ และ เลือกวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างสระว่ายน้ำ สามารถเลือกใช้ ได้อย่างไม่จำกัด และ เลือกให้เข้ากับบ้าน เพื่อเป็นการ ตกแต่งบ้านอีกด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่าง มากกว่าสระว่ายน้ำสำเร็จรูป ที่จะมีแค่สีขาว ซึ่งจะเลือกได้แค่ กระเบื้องที่ใช้ตกแต่งขอบสระว่ายน้ำ

• โครงสร้างของสระว่ายน้ำ

ซึ่งชั้นโครงสร้างนี้ จะเป็นชั้นที่อยู่ข้างในสุด เป็นชั้นที่ใช้วางเสาเข็ม และ ชั้นที่เทคอนกรีต ซึ่งจะต้องมีการ คำนวณขนาดของเสาเข็ม ให้มีความเหมาะสมโดยวิศวกร ที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยัง ต้องทำการคำนวณ น้ำที่ต้องเติมลงไป ในสระว่ายน้ำอีกด้วย ซึ่งผนังของสระว่ายน้ำ เป็นส่วนที่นำสามารถ ซึมผ่านได้ง่ายที่สุด ในการก่อสร้าง จึงจำเป็นที่จะต้อง ใช้วัสดุที่กันซึมเพื่อกันซึม ของน้ำภายในโครงสร้าง

• ชั้นของปูนฉาบสระว่ายน้ำ

ซึ่งชั้นนี้จะเป็นการฉาบพื้นผิว ของสระว่ายน้ำให้มีความเรียบเนียน และ มีความสวยงาม ซึ่งขั้นตอนนี้ จะทำหลังจาก ที่มีการลงเสาเข็ม และ การเทคอนกรีต เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการเลือกวัสดุ ที่ใช้ฉาบสระว่ายน้ำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพ และ ได้มาตรฐาน ที่ออกแบบมาเพื่อการ สร้างสระว่ายน้ำ และ มีคุณสมบัติที่มีแรง ยึดเกาะที่สูง และ เหมาะสำหรับคอนกรีตโดยเฉพาะ

• ชั้นกันซึม

ซึ่งชั้นนี้เป็นสิ่ง ที่ขาดไม่ได้สำหรับ การสร้างสระว่ายน้ำคอนกรีต เนื่องจากชั้นนี้ เป็นชั้นที่ป้องกัน ไม่ให้น้ำซึมเข้าไป ในโครงสร้างของ สระว่ายน้ำนั้นเอง ซึ่งหามีน้ำซึมผ่าน เข้าสู่ระบบโครงสร้าง ก็จะทำให้เกิดความเสียหายได้ อีกทั้งยังทำการ ซ่อมแซมได้ยาก ซึ่งก่อนทำการปูกระเบื้อง จำเป็นที่จะต้องเลือก การเคลือบผิวของสระว่ายน้ำ ที่มีส่วนผสมของซีเมนต์ ผสมอยู่ด้วย เพราะสามารถปูกระเบื้อง ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

• ชั้นกาวซีเมนต์

ชั้นนี้จะเป็นการ ทากาวซีเมนต์สำหรับ การปูกระเบื้อง จำเป็นที่จะต้อง เลือกกาวซีเมนต์ ที่มีประสิทธิภาพ ในการยึดเกาะสูง และ เหมาะกับการ ใช้งานภายนอก ควรเลือกกาวซีเมนต์ที่สามารถใช้งาน ได้ง่าย และ มีวิธีการใช้ไม่ยุ่งยาก เพื่อเป็นกา รประหยัดเวลา ในการทำงาน ช่วยให้งานเสร็จ ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งชั้นนี้จะทำหลังจาก ชั้นกันซึมแห้งสนิทแล้วนั้นเอง

• ชั้นปูกระเบื้องของสระว่ายน้ำ

ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้นสุดท้าย คือชั้นกระเบื้องนั้นเอง ในการเลือกกระเบื้อง สระว่ายน้ำคอนกรีตนั้น ส่วนมากจะเลือก กระเบื้องแบบโมเสก กระเบื้องเซรามิก หรือกระเบื้องแก้ว ซึ่งกระเบื้องเหล่านี้เป็นกระเบื้อง ที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังสามารถ ทนต่อความชื้นสูงมากอีกด้วย และ มีการดูดซึมน้ำ ในอัตราที่ต่ำ จึงไม่มีการหลุดล่อน ซึ่งเหมาะกับสระว่ายน้ำเป็นอย่างมาก

• ทำการเตรียมพื้นผิวของสระว่ายน้ำ

ในกรณีที่เป็น โครงสร้างใหม่ จำเป็นที่จะต้องปล่อย ให้ปูนซีเมนต์นั้นแห้งสนิท เสียก่อน อย่างน้อยเป็นระยะเวลา 60 วัน

ทำการเตรียมพื้นผิวก่อนทำการปูกระเบื้องให้มีความสะอาด ไม่มีฝุ่นเกาะหรือสิ่งสกปรก

• ทำการทากันซึมของสระว่ายน้ำ

ขั้นตอนนี้ จะทำการติดตั้ง ระบบกันซึม ของสระว่ายน้ำก่อนทำการปูกระเบื้อง ซึ่งจะทำการลงกันซึม ทั้งแนวนอน และ แนวตั้ง 2 รอบหลังจากนั้น ทำการปล่อยให้แห้งในระยะเวลา 7 วัน อีกทั้งการตรวจสอบ การซึมของน้ำ ด้วยการเติมน้ำลง ในสระแล้วสังเกตน้ำ ว่านมีการลงลดหรือไม่ เป็นเวลา 7 วัน หาทำการสังเกตดูแล้ว ไม่มีน้ำรั่วซึมให้ทำการปล่อยน้ำ ออกแล้วทิ้งให้สระว่ายน้ำแห้ง

• ทำการปูกระเบื้อง

ขั้นตอนนี้จะทำการ ปูกระเบื้องของสระว่ายน้ำ ด้วยกาวซีเมนต์ หลังจากทำการปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรทิ้งให้ กาวซีเมนต์แห้งประมาณ5-7 วัน หรือขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศของบริเวณนั้นอีกด้วย

• ทำการยาแนวกระเบื้อง

หลังจากทำการ ปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ให้ทำการยาแนวกระเบื้องตามร่อง แล้วทิ้งไว้ให้ยาแนวแห้งประมาณ 14 วัน แล้วทำการเช็ด ทำความสะอาดยาแนวออก แล้วทำการเติมน้ำลงในสระว่ายน้ำ