ผนังเก่า มีขั้นตอนการทาสีอย่างไร?

ในการรีโนเวทผนังที่เก่าให้กลับมาสวยงามเหมือนใหม่อีกครั้งเรามีวิธีการ ทาสี ผนังเดิมที่มีอยู่แล้วซึ่งเกิดการเสื่อมสภาพ และ เกิดการชำรุดเสียหายให้กลับมาสวยงามจำเป็นที่จะต้องมีการใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งจะมีขั้นตอน และ วิธีการอย่างไรนั้นเรามาทำความรู้จักกันเลย

สารบัญ

การตรวจสอบผนังเก่าก่อนทาสี
ขั้นตอนการทาสีผนังเก่า
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสีรองพื้น
วิธีสั่งซื้อสินค้า

ขั้นตอนการตรวจสอบผนังเก่าก่อนทำการ ทาสี

ทำการตรวจสอบรอยแตกร้าวของผนัง

ขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจสอบรอยร้าวต่าง ๆ ที่บริเวณผนังในการตรวจสอบนี้เป็นการป้องกัน การเกิดปัญหาของการรั่วซึมเพราะอาจจะเกิดการหลุดลอกของสี ดังนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายได้ และ ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะเกิดเชื้อราได้อีกด้วย ซึ่งเชื้อราจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน หรือ อาจจะส่งผลถึงขั้นเกิดปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างเลยก็ว่าได้

ทำการตรวจสอบความชำรุดเสียหายของผนัง

ก่อนทำการทาสีผนังใหม่ควรทำการตรวจสอบว่าผนังนั้นเกิดการทรุด หรือ เสียหายหรือไม่ โดยจะทำการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าผนังนั้นเกิดการเอียง หรือ เกิดการทรุดหรือไม่ เพราะปัญหาการทรุดการเอียงของผนังบ้านนั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่ซึ่งอาจจะส่งผลต่อโครงสร้างของตัวบ้านเลยก็ว่าได้

ทำการตรวจสอบการรั่วซึมของผนังเก่า

การตรวจสอบการรั่วซึมของผนังนั้นเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญส่วนใหญ่จะทำการตรวจสอบ ผนังที่ติดกับห้องน้ำ หรือ ในที่โดนความชื้นเป็นประจำหากพบการรั่วซึมควรทำการซ่อมแซมทันทีก่อนที่จะทำการทาสีผนังเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้านั้นเอง

ในการทาสีผนังเก่านั้นควรการทาสีรองพื้นก่อนหรือไม่?

ซึ่งสามารถทำการทาสี หรือ ไม่ทาสีรองพื้นก่อนก็ได้เนื่องจากจะต้องให้ช่างที่มีความชำนาญทำการตรวจสอบก่อนว่าสมควรทาหรือไม่ซึ่งหากทำการตรวจสอบผนังแล้วว่าเป็น พื้นผิวผนังที่มีฝุ่น หรือ มีการพองตัวของสีที่ผนังจึงจำเป็นที่จะต้องทำการทาสีรองพื้นผนังเสียก่อนก่อนที่จะทำการทาสีใหม่ทับลงไปเพื่อให้ได้สีที่มีความสวยงาม และ ให้สีติดทน อีกทั้งยังป้องกันการซีดจางของสี หรือ เกิดการหลุดล่อนได้อีกด้วย

ขั้นตอนการทาสีผนังเก่า

ทำการแซะสีเดิม และ ซ่อมแซมความเสียหาย

ขั้นตอนแรกในการทาสีใหม่ ให้ผนังเก่าจะทำการแซะสีของผนังเก่าออกให้หมดด้วยอุปกรณ์ และ ทำการตรวจสอบความชำรุดเสียหายอีกครั้งว่ามีการชำรุดอยู่หรือไม่หากมีให้ทำการซ่อมแซมทันทีเพื่อให้สีที่ทาใหม่สามารถทำการยึดเกาะกับผนังได้ดีมากยิ่งขึ้นนั้นเอง

ทำความสะอาดผนังเก่า

หลังจากที่ทำการแซะสีเก่าออก หรือ ทำการซ่อมผนังเก่าเสร็จแล้วให้ทำการขัดพื้นผิวของผนังด้วยอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อให้มีพื้นผิวที่เรียบเนียนหลังจากนั้นให้ทำความสะอาดผนังเก่า ให้สะอาดแล้วรอแห้ง และ หากเป็นเชื้อราที่ผนังควรการใช้น้ำยาเฉพาะในการกำจัดเชื้อราด้วย เพื่อให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ทำการทาสีรองพื้น

ก่อนที่จะทำการทาสีใหม่นั้นเราจำเป็นที่จะต้องมีการทาสีรองพื้นเสียก่อนเพื่อให้สีใหม่ที่จะทำการทาลงบนผนังนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถยึดเกาะกับผนังได้ดี อีกทั้งยังทำให้สีของผนังนั้น มีสีที่ชัดเจน และ สวยงาม

ทำการลงมือทาสี

ขั้นตอนนี้จะเป็นการทาสีใหม่หลังจากที่ทำการทำความสะอาดผนังเสร็จแล้วซึ่งสามารถใช้ลูกกลิ้ง หรือ แปรงทาสีทางลงไปบนผนังสามารถเลือกใช้สี และ ออกแบบลายในแบบต่าง ๆ ตามสไตล์ที่มีความชอบ หรือ ต้องการได้เลยเมื่อทำการทาสีเสร็จแล้วควรปล่อยสีให้แห้งที่ระยะเวลาประมาณ 3 ถึง 6 ชม. แล้วหลังจากนั้นจึงทำการทาสีซ้ำอีกรอบที่ 2 เพียงเท่านี้เราก็ได้ผนังที่มีความสดใสสวยงามเหมือนใหม่แล้ว

ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสีทารองพื้น

สีทารองพื้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้ามกันเพราะคิดว่าจะทาสีทับหน้าอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นที่จะต้องทาสีรองพื้นนั้นเองแต่การทาสีรองพื้นนั้นสามารถช่วยให้สีที่ทำให้สีที่ทาใหม่นั้น สามารถยึดเกาะกับผนังได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังสามารถยืดอายุการใช้งานของสีได้เนื่องจากสีทาทับหน้านั้นมีการติดทนนานมากกว่าเดิมสามารถช่วยให้การทาสีทับหน้านั้นทำได้ง่าย เนื่องจากมีการทาสีรองพื้นแล้วจึงทำให้พื้นผิวนั้นมีความเรียบเนียน และ มีความสมดุลจึงทำให้ทาสีได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั้นเอง และ ยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยลดปัญหาของการหลุดลอกของสีการพองตัวของสี และ การซีดจางของสีได้รวมไปถึงการเกิดคราบตะไคร้เชื้อราต่าง ๆ บนผนังได้ดีมากอีกด้วย