เทเสาคอนกรีต

เทคอนกรีตเสาอย่างไร ให้แน่น แข็งแรง ไม่ต้องรื้อซ้ำ

เทคอนกรีตเสาอย่างไร ทำได้โดยเทคอนกรีตเป็นชั้นไม่เกิน 45 ซม. กระทุ้ง หรือ ใช้เครื่องสั่นให้คอนกรีตแน่นไปถึงมุมแบบหล่อเสมอผิวเหล็กเสริมแล้วเคาะแบบหล่อเบา ๆ เพื่อไล่อากาศ แต่ไม่เคาะแรงเกินไปจนคอนกรีตแยกตัว นอกจากนี้ต้องรักษาความชื้นของคอนกรีตหลังเทด้วยการบ่มอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ได้กำลังอัดสูงสุด ขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยมีหลักสำคัญดังนี้

1. เตรียมแบบหล่อ (ไม้/เหล็ก/พีวีซี) ให้แข็งแรง

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบบหล่อไม่รั่ว ไม่บิดงอ และรับแรงดันของคอนกรีตได้
  • ยึดแบบให้แน่น โดยเฉพาะช่วงฐานกับพื้นและจุดต่อของแบบ
  • ใช้น้ำมันหล่อลื่นแบบ (น้ำมันหล่อแบบ) เพื่อให้ถอดแบบง่าย ไม่ติดคอนกรีต

2. จัดวางเหล็กเสริมให้ถูกต้องตามแบบ

  • ผูกเหล็กเสริมตามแบบวิศวกรรม
  • ให้มี “ระยะหุ้มคอนกรีต” (cover) เพียงพอ โดยใช้ลูกปูนหรือลูกหนุนพลาสติกให้เหล็กลอยอยู่กลางเสา
  • อย่าให้เหล็กชิดแบบหรือโผล่พ้นแบบ

3. ผสมคอนกรีตอย่างถูกสัดส่วน

  • ใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน (เช่น คอนกรีตผสมเสร็จ หรือผสมเองตามอัตราส่วนที่วิศวกรกำหนด)
  • ห้ามใส่น้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้คอนกรีตอ่อนตัวและความแข็งแรงลดลง
  • ถ้าใช้คอนกรีตผสมเสร็จ อย่าให้ล่าช้าเกิน 1.5 ชั่วโมงหลังผสม

4. เทคอนกรีตต่อเนื่อง ไม่หยุดเป็นช่วง

  • เทจากความสูงไม่เกิน 1.5 เมตร เพื่อป้องกันการแยกชั้น (Segregation)
  • เทเป็นชั้นๆ ไม่หนาเกิน 30-50 ซม. ต่อชั้น แล้วใช้เครื่องจี้คอนกรีต (Concrete vibrator) ทุกชั้น

5. จี้คอนกรีต (Vibrate) ให้แน่นทั่วถึง

  • ใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าหรือแบบเขย่าเท่านั้น ห้ามใช้ไม้กระทุ้งแทน
  • จี้แต่ละจุดประมาณ 5-10 วินาที แล้วเปลี่ยนตำแหน่ง (ระยะห่าง 30-40 ซม.)
  • จี้ให้ถึงขอบแบบและให้แน่ใจว่าไม่มีโพรงอากาศหรือคอนกรีตเป็นโพรง

6. ดูแลบ่มคอนกรีตหลังเท

  • รดน้ำหรือคลุมผ้าเปียก/พลาสติกเพื่อป้องกันน้ำระเหย
  • บ่มอย่างน้อย 7 วัน (ถ้าใช้ปูนปอร์ตแลนด์ธรรมดา)

7. ตรวจสอบก่อนถอดแบบ

  • ไม่ควรถอดแบบเร็วเกินไป โดยทั่วไปควรทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 วัน
  • ตรวจดูผิวคอนกรีตว่าเรียบแน่น ไม่มีรอยร้าวหรือรูโพรง

ระหว่างการเท

1.เทเป็นชั้น ๆ : ควรเทคอนกรีตเป็นชั้นๆ ในแนวราบ โดยแต่ละชั้นมีความหนาไม่เกิน 45 เซนติเมตร
2.ทำให้แน่น : ขณะเทคอนกรีต ให้ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์สั่นคอนกรีตกระทุ้งหรือกระทบแบบหล่อ เพื่อให้เนื้อคอนกรีตเข้าไปแทรกตามมุมแบบหล่อและเกาะกับเหล็กเสริมได้ดีทั่วถึง
3.เคาะแบบหล่อ : ใช้ค้อนเคาะที่แบบหล่อด้านข้างเบาๆ เพื่อช่วยให้คอนกรีตแทรกเข้าไปตามมุมและซอกต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
4.หลีกเลี่ยงการเคาะแรงเกินไป : การเคาะแบบหล่อที่แรงเกินไปจะทำให้น้ำและส่วนละเอียดของคอนกรีตแยกตัวลอยขึ้นข้างบน ทำให้คอนกรีตเกิดรอยร้าวและแรงยึดเหนี่ยวกับเหล็กเสริมลดลง
5.เทจากที่สูงได้ไม่เกิน 2 เมตร : เพื่อป้องกันคอนกรีตแยกตัว 

หลังการเท

1.เริ่มบ่มทันที : ควรเริ่มกระบวนการบ่มคอนกรีตทันทีที่เทและอัดแน่นเสร็จ. 
2.บ่มคอนกรีตอย่างน้อย 7 วัน : คอนกรีตควรได้รับการบ่มอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน. 
3.รักษาระดับความชื้น : ใช้วิธีคลุมด้วยผ้ากระสอบเปียกชื้น หรือใช้น้ำยาบ่มคอนกรีต เพื่อให้คอนกรีตมีน้ำเพียงพอต่อปฏิกิริยาการพัฒนากำลังอัด. 
4.บ่มด้วยไอน้ำ (เร่งด่วน) : สำหรับงานเร่งด่วน สามารถใช้วิธีบ่มด้วยไอน้ำเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้น

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง 

1.ห้ามผสมน้ำเพิ่ม : การเติมน้ำในคอนกรีตที่ผสมเสร็จแล้ว จะทำให้คอนกรีตเจือจาง มีกำลังอัดลดลง และความแข็งแรงลดลง
2.หลีกเลี่ยงฝนตกหนัก : ห้ามเทคอนกรีตในขณะที่ฝนตกหนัก เว้นแต่จะมีระบบป้องกันน้ำที่ดี
3.ห้ามหยุดเทคอนกรีตนานเกินไป : การหยุดเทคอนกรีตเกิน 30 นาที ก่อนเทต่อ ต้องรอให้คอนกรีตเริ่มแข็งตัวก่อน (อย่างน้อย 20 ชั่วโมง) เพื่อป้องกันคอนกรีตเก่ากับคอนกรีตใหม่ไม่ยึดเกาะกัน

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • หากเสาสูงหรือขนาดใหญ่ ควรเทผ่านกรวยเทหรือท่อลำเลียงคอนกรีต
  • หลีกเลี่ยงการเทคอนกรีตตอนฝนตกหนักหรือตอนอากาศร้อนจัด
  • มีวิศวกรหรือช่างผู้ชำนาญคอยควบคุมการทำงานจะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น

การนำวัสดุไปใช้งาน คลิกที่นี่

ความรู้วัสดุก่อสร้าง  คลิกที่นี่

https://www.facebook.com/naichanggroup

 

สั่งซื้อสินค้ากับ ร้านนายช่างกรุ๊ป
ขอใบเสนอราคา/สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์ 097-178-9362
Line: @naichanggroup

วัสดุก่อสร้างออนไลน์ ส่งตรงถึงไซต์งาน
เจ้าใหญ่ในนนทบุรี ประสบการณ์ 30 ปี