การเลือกพื้นไม้เทียมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
โดยทั่วไป ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้วว่าวัสดุไม้จริง จัดเป็นวัสดุที่มีราคาแพงมาก การจะนำใม้จริงมาใช้ในงานก่อสร้างต้องมีความพิถีพิถัน ต้องคัดเลือกตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้งานเท่านั้น ในตัวบ้านเราจึงเห็นไม้มาตกแต่งเพียงบางจุดเท่านั้น เช่น ประตูบ้าน หน้าต่าง ราวระเบียง งานกรุผนัง หรือ พื้นบันได งานเฟอร์นิเจอร์ การนำไม้จริงมาสร้างบ้านนั้น นิยมใช้กันน้อยมาก เนื่องจากราคาของไม้จะแพงกว่าวัสดุอื่นๆโดยทั่วไป อีกทั้งในเรื่องของการดูแลรักษายากกว่าวัสดุอื่นๆ ปัญหาที่หนักใจที่สุดก็คือเรื่องวปลวกกินไม้ นั้นเอง
ในปัจจุบันเทคโนโลยีของการก่อสร้างจึงได้ค้นคว้านวัตกรรมต่างๆ ที่นำมาทดแทนพื้นไม้จริงหรือนิยมเรียกกันว่า พื้นไม้เทียม และนับเป็นโชคดีที่สุดที่เราสังเกตและแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนคือไม้จริงหรือไม้เทียม โดยตามท้องตลาดทั้วไปจะมี4ตัวเลือกหลักๆให้เลือกใช้กัน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า วัสดุพื้นไม้เทียมในแต่ละหประเภทนั้น มีข้อดีข้อเสียที่แกตต่างกันไป ไม่มีประเภทไหนดีกว่าหรือด้อยกว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งานในหน้างาน
ไม้เทียม,ไม้สังเคราะห์ หรือ ไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์
ไม้เป็นวัสดุทำให้บรรยากาศบ้านดูอบอุ่น และ ให้พื้นผิวที่น่าสัมผัสเป็นธรรมชาติ ทุกๆคนมักจะนึกถึงไม้เป็นอันดับแรก ปัจจุบันมีการใช้ไม้จริงในการสร้างบ้าน แต่ไม้เทียม หรือ ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และสมัยนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถผลิตมาเป็นวัสดุใช้ทดแทนไม้ได้อย่างลงตัวและมีหลายประเภทการใช้งาน แถมราคายังถูกกว่าไม้จริง และมีความคงทนแข็งแรงมากกว่า จะเป็นงานก่อสร้างที่ใช้ต่อเติม รีโนเวท ไม้สังเคราะห์หรือไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ ก็นับว่ามีความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ก่อนที่เราจะเลือกใช้วัสดุนั้น เราควรรู้อะไรเกี่ยวกับผฟลิตภัณฑ์บ้าง
ไม้เทียม,ไม้สังเคราะห์ หรือ ไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ นั้น มีชื่อเรียกต่างกันออกไป แต่โดยรวมคือการนำวัสดุต่างๆ มาผลิตขึ้นใหม่ ให้ได้คาแรคเตอร์เฉกเช่นเดียวกับไม้จริง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ มีความเป็นปูนอยู่ในตัว แต่ยังคงมีความยึดหยุ่น
- ไม้สังเคราะห์ Wood Plastic Composite ผลิตจาดส่วนผสม ทรายละเอียด ปูนซีเมนต์ ผสมกับเส้นใยธรรมชาติ ทำให้มีความแข็งแรงและความรู้สึกเหมือนไม้จริงเพราะผิวสัมผัส ปัจจุบันคนจะนิยมใช้ไม้สังเคราะห์ประเภทนี้มากกว่า เพราะความสวยงามและแข็งแรง
ข้อดี
1.ราคาถูก หาง่าย หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป
2.แยกไม่ออกระหว่างไม้จริงหรือไม้สังเคราะห์เพราะเหมือนมาก สามารถทำสีเหมือนไม้จริงได้
3.ตัดแต่งและเจาะได้เหมือนไม้จริง
4.ปลวก มอด และแมลงไม่กิน
5.ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ไม่มีการบิดตัว หด เหมือนไม่จริง
ข้อเสีย
1.เปราะและหักได้ง่ายต้องทำโครงสร้างถี่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักมากได้หรือทำเป็นโครงสร้างไม่ได้ความเหนียวไม่มีเลย แตกหักได้ง่าย ถึงแม้จะแข็งแต่พื้นไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์จะเปราะได้ง่าย
2.มีน้ำหนักมาก มีส่วนผสมระหว่างปูนกับทราย(ซิลิก้า)
3.ถึงแม้พื้นไม้สังเคราะห์ไฟ เบอร์ซีเมนต์จะทำสีให้เหมือนไม้จริงได้ ต้องอาศัยช่างที่มีฝีมือในการทาสีให้เหมือนไม้จริง ไม่งั้นงานจะออกมาเละเทะ
4.ผิวสัมผัสร้อนเพราะทำมาจากไฟเบอร์ซีเมนต์
5.สีมีโอกาสที่จะหลุดลอกได้ง่าย ถ้าโดนขีดข่วนก็จะเป็นรอยเห็นได้ชัดเป็นเนื้อขาวๆของปูน แก้ไขยากกว่าไม้จริง
การดูเเลรักษา
1.เตรียมพื้นผิวหน้างาน
1.1 ถ้าพื้นผิวไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ใหม่ ควรทำความสะอาดโดยทำให้ ไม่มีฝุ่น คราบไขมัน น้ำมัน หรือสิ่งแปลกปลอม ตัวไม้ต้องมีความชื้นไม่เกิน 14% และต้องแน่ใจว่าพื้นผิวแห้งสนิท
1.2 ถ้าพื้นผิวไม้สังเคราะห์เป็นไฟเบอร์ซีเมนต์เก่า ต้องทำการจัด และ ต้องลอกเอาฟิล์มของเก่าที่สภาพใช้งานไม่ได้แล้วออกให้หมดก่อน ต้องเตรียมพื้นผิวให้ไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ ไม่มีฝุ่น หรือ หลุดล่อน จะทำให้ได้ประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดี
2.การทาสีรองพื้น
2.1 ใช้ยารองพื้นปูนเก่าทาบนพื้นผิว สูตรผสมผงสี เบเยอร์ ซุปเปอร์คอนแทค ไพรเมอร์ B-1700 ทาไว้หนึ่งเที่ยวแล้วทิ้งไว้ให้ น้ำยารองพื้ยแห้งประมาณ 4-6 ชั่วโมง การทารองพื้นเพื่อป้องกันการซึมของน้ำเข้าที่พิ้นผิวไม้สังเคราะห์ ช่วยระหว่างการทาสีกับพื้นผิว ได้อย่ามีประสิทธิภาพอีกด้วย
3.การทาสีไม้สังเคราะห์
3.1 ทาทับด้วยสีทาไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ ซินโนเท็กซ์ ชนิดโปร่งแสง/ทึบแสง จำนวน 2 เที่ยว โดยแต่ละเที่ยวทิ้งให้แห้ง 1-2 ชั่วโมง
—————————————————————————————————————————-
2.พื้นไม้เทียม ไวนิล (กระเบื้องยาง)
พื้นไม้เทียมไวนิล เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งของลามิเนตก็ว่าได้ แต่ในระยะหลังๆ กระเบื้องยางจะทำคะแนนได้ดีกว่าลามิเนตเกรดทั่วไป ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ผลิตจากพีวีซี จึงทนทานต่อความชื้นสูง และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถสร้างลวดลายให้คล้ายกับไม้จริงมากยิ่งขึ้น อยากได้เหมือนไม้จริงสายพันธุ์ไหน กระเบื้องยางสามารถทำได้หมด
อีกจุดเด่นหนึ่งที่ทำให้ไม้ไวนิลขายดีก็คือ มีสัมผัสที่นุ่มสบายเท้า ลดแรงกระแทกกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกระเบื้องยางรุ่นที่ออกแบบมาให้หนาพิเศษเพื่อเอาใจกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจหกล้มได้ นอกจากนี้กระเบื้องยางยังมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่นๆ การติดตั้งง่ายไม้แพ้กับพื้นไม้ลามิเนต จึงช่วยลดภาระของโครงสร้างบ้าน
การใช้งานพื้นไม้เทียมกระเบื้องยาง
เหมาะกับงานภายใน ใช้ได้กับห้องทั่วไปเช่นเดียวกับพื้นไม้ลามิเนต แต่ไม่กลัวความชื้น ดังนั้นสามารถปูไกล้ที่ชื้นได้ เปียกน้ำได้นานกว่าลามิเนตปูชั้นแรกของบ้านได้ และที่สำคัญไม่กลัวปลวก ส่วนการเลือกซื้อแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีกาวในตัว ช่วยให้ติดตั้งง่ายยิ่งขึ้นครับแต่จะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นที่ไม่มีกาว
ราคากระเบื้องยางแบบทั่วไป : ประมาณ 700 – 1,200 บาท/ตร.ม.
—————————————————————————————————————————-
3.พื้นไม้เทียม กระเบื้องเซรามิคลายไม้
ซึ่งปกติความนิยมในการใช้งานกระเบื้องเซรามิคมีสูงเป็นทุนเดิมแล้ว ต้องขอขอบพระคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้เราได้เห็นลวดลายต่าง ๆ บนพื้นกระเบื้องเซรามิคได้อย่างสมจริงมาก เมื่อมีลวดลายที่ใกล้เคียงธรรมชาติ ใกล้เคียงของจริง ยิ่งทำให้กระเบื้องได้รับความนิยมสูงยิ่งขึ้น
ส่วนขนาดที่แนะนำให้เลือกเป็นลักษณะแผ่นยาว ปัจจุบันกระเบื้องลายไม้มีให้เลือกหลายขนาด ซึ่งจะเป็นลักษณะที่อิงกับขนาดไม้จริง หากใช้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั่วไป รอยต่อของการปูจะเยอะ และจะส่งผลให้พื้นดูไม่ค่อยเหมือนไม้จริงเท่าไหร่นัก ขณะเลือกใช้ให้นำมือลูบผิวสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง ลวดลายที่คล้ายเหมือนจริงจะต้องไม่เรียบเนียนและลื่นเหมือนกับกระเบื้องทั่วไป แต่ก็จะต้องมีความหยาบเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
การใช้งานพื้นกระเบื้องเซรามิก
วัสดุเซรามิกมีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่าลามิเนตและกระเบื้องยาง สามารถใช้งานได้ทุก ๆ ห้องของบ้าน รวมทั้งภายในห้องครัวและห้องน้ำ ห้องที่มีความชื้นสูง ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิคคือรอยต่อ ร่องยาแนว รวมทั้งสัมผัสที่แข็งกระด้างแตกต่างจากงานไม้ที่แม้จะเป็นไม้เนื้อแข็งแต่ให้สัมผัสที่อ่อนโยนกว่า
กระเบื้องเซรามิกมีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่าไม้ลามิเนตและพื้นไม้ไวนิล สามารถใช้งานได้ในทุก ๆ ห้องของบ้าน รวมทั้งภายในของห้องครัวและในห้องน้ำ โดยห้องที่มีความชื้นสูง ข้อเสียของการติดตั้งกระเบื้องเซรามิคคือรอยต่อและร่องยาแนว รวมทั้งผิวสัมผัสที่แข็งกระด้างที่แตกต่างจากงานไม้ที่แม้จะเป็นไม้เนื้อแข็งแต่ให้สัมผัสที่อ่อนโยนกว่า ไม้พื้น ราคา
ราคากระเบื้องเซรามิก : 190 – 800 บาท / ตร.ม.
—————————————————————————————————————————-
4.พื้นไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์
ปิดท้ายด้วยวัสดุที่ทำจากไฟเบอร์ซีเมนต์ วัสดุที่ได้มีการพัฒนาให้เป็นไม้เทียมกันมาอย่างต่อเนื่อง ในอดีตเราจะเห็นชัดได้จากงานไม้รั้ว, ไม้ระแนง, ไม้เทียมตกแต่งผนัง จนแม้กระทั่งไม้พื้น จุดเด่นที่เห็นได้ชัดของวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์นี้ คือ การทดแดด ทนฝน ทนไฟ ทนแรงสัมผัส เหมาะกับการใช้งานภายนอกมากกว่าภายใน ไม้พื้น ราคา
การใช้งานพื้นไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์
เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งประเภท Outdoor โดยปกติจะนิยมนำมาใช้ร่วมกับทางเดิน, พื้นระเบียงบ้าน, พื้นสระว่ายน้ำ และมีให้เลือกทั้งแบบทั่วไปและลักษณะ Click Lock มีหลายรุ่นทั้งรุ่นที่ทำสีสำเร็จมาจากโรงงานและรุ่นที่ต้องทำสีใหม่
ราคาพื้นไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ : 500 – 1,500 บาท/ตร.ม.
ทั้ง 4 วัสดุนี้เป็นเพียงตัวอย่างพื้นไม้เทียมที่นิยมใช้งานและมีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดบ้านเราเท่านั้น หากเป็นตลาดระดับบนจะมีวัสดุอื่น ๆ ให้เลือกอีกมาก อาทิ ไฮบริด วู้ด พื้นไม้เทียมที่มีส่วนผสมของไม้จริงและพลาสติก PE รวมทั้งไม้เทียมชนิดอื่น ๆ วัสดุแต่ละประเภท มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกันไป นอกจากการเลือกใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์แล้ว การออกแบบลวดลายในการปูพื้นเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
การตัดสินใจเลือกซื้อวัสดุ
ในปัจจุบันแบรนด์ของไม้สังเคราะห์และไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์มีอยู่หลากหลาย ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป เราควรเลือกใช้วัสดุที่ทำให้เกิดความลงตัวและออกแบบมาให้เข้ากันเพื่อที่จะให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด นอกเหนือจากงานก่อสร้างแล้วยังมีปัจจัยที่ต้องตคำนงถึง อาทิเช่น
1. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ไม้สังเคราะห์หรือไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์นั้น ความจริงเป็นวัสดุที่นำมรีไซเคิลอย่างหนึ่ง เลยนับว่าเป็นมิตรไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมดีอยู่แล้ว ซึ่งส่วนผสมของไม้สังเคราะห์ในแต่ละแบรนด์จะไม่เหมือนกัน การเลือกไม้สังเคราะห์ที่ดีจึงไม่ควรมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสารพิษที่ผสมอยู่ด้วยภายในเช่น แอสเบสตอส ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ หรือ สารที่เกิดขึ้นจากการนำกลับไปใช้ใหม่ในอนาคต
2. ความปลอดภัย
ไม้สังเคราะห์หรือไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ดีต้องเป็นฉนวนกันไฟไม่ลามไฟ และ ทนต่อการกัดกร่อน ต่อ แดดลมฝน เคมี ปลวกมอด ไม่แตกกรอบหรือปิดงอ สามารถดูได้จาก เสปค ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และมาตรฐานที่ได้การรับรอง ไม้สังเคราะต้องปลอดภัยในเชิงสุขภาพและปลอกภัยในเชิงวัสดุ
3. ความลงตัว
ไม้สังเคราะห์หรือไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ ได้ผ่านการออกแบบมาแล้วเป็นวัสดุทางด้านอุตสาหกรรมต่างจากไม้จริง ดังนั้น จึงสามารถกำหนดตัวชิ้นส่วนต่างๆได้ เพื่องานก่อสร้างที่หลากหลายและมีความลงตัวตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มการผลิต การใช้งานไม้สังเคราะห์จึงมีให้เลือกหลากหลายด้านตามความเหมาะสม เช่น การนำมาทำไม้ฝา ไม้บันได ไม้พื้น ไม้รั้ว ไม้ระแนง ไม่ที่แปรรูปที่ดีควรจะติดตั้งสะดวกและง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเพิ่มในการใช้งาน และสามารถที่จะพลิกแพลงได้ ไม้สังเคราะห์เป็นวัสดุทดแทนที่ไม่ด้อยกว่าไม้จริงเลย อาจจะไม่เหมือนไม้จริงทั้งหมด แต่จะมีข้อดีกว่าหลายด้านที่ไม้จริงไม่มี เช่น เรื่องของราคา หรือ การบิดงอ ซึ่งใช้ไม้สังเคราะห์จะดีกว่า ขอดีที่ว่าสามารถให้คนนิยมใช้ไม้สังเคราะห์และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในการเลือกวัสดุ ที่ ลงตัว สวยงาม เพื่อบ้านของตนเองในอนาคต